เข้าสู่ช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงในเดือนพฤศจิกายนแล้วนะคะทุกคน! พอพูดถึงเดือนพฤศจิกายนแล้วจะนึกถึงอะไรกันบ้างเอ่ย? บางคนอาจจะเริ่มเตรียมเสื้อผ้าหนาๆ ต้อนรับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง หรือบางคนก็อาจจะอยากออกไปเดินเล่นข้างนอกในวันที่อากาศยังสบายๆ อยู่ ซึ่งก็เป็นไอเดียที่ดีทั้งคู่เลยค่ะ และสำหรับญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายน ก็มีเทศกาลที่เป็นเอกลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วงอยู่มากมายเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสี หรือเทศกาลไฟต่างๆ ที่มีชื่อเสียง และวันนี้เราจะมาแนะนำ 10 เทศกาลญี่ปุ่นประจำเดือนพฤศจิกายนให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ!

1. คางาวะ: สิงโตซานุกิ (獅子舞王国さぬき)

อาณาจักรสิงโตซานุกิ (Shishimai Oukoku Sanuki) เป็นเทศกาลเชิดสิงโตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จัดขึ้นโดยจังหวัดคางาวะ ในแต่ละปีจะมีคณะเชิดสิงโตกว่า 60 คณะมารวมตัวกันอย่างยิ่งใหญ่ และเฉพาะในจังหวัดคางาวะเองก็มีคณะเชิดสิงโตทั้งเล็กและใหญ่รวมกันกว่า 800 คณะเลยทีเดียว สมกับชื่อ ‘อาณาจักรสิงโต’ จริงๆ ค่ะ

แหล่งที่มาของภาพ

สิงโตของแต่ละคณะนั้นมีความงดงามและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นสีสัน รูปร่าง หรือผ้าที่ใช้ ประกอบกับการเคลื่อนไหวที่ดุดันและเสียงฆ้องที่ดังกึกก้อง ทำให้การเชิดสิงโตในเทศกาลสร้างความประทับใจและพลังให้กับผู้ชมอย่างมาก นอกจากนี้ บริเวณด้านนอกงานยังมีการจัดแสดงให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสอุปกรณ์ประกอบการแสดง หรือแม้กระทั่งลองทำหัวสิงโตจากกล่องกระดาษเองก็ได้ ถือเป็นเทศกาลที่ทุกคนสามารถมาสนุกและสัมผัสวัฒนธรรมได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ

แหล่งที่มาของภาพ

■ ชื่อ: อาณาจักรสิงโตซานุกิ / 獅子舞王国さぬき

■ ที่อยู่: บริเวณรอบสถานีทาคามัตสึ เมืองทาคามัตสึ จังหวัดคางาวะ

■ วันที่จัดงาน: ต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี

■ เว็บไซต์ทางการ

2. ซากะ: เทศกาลคะระสึกุนจิ (唐津くんち)

เทศกาลคะระสึกุนจิ (Karatsu Kunchi) เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวที่จัดขึ้นในเมืองคาราสึ จังหวัดซากะ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เทศกาลนี้จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี โดยมีขบวนแห่ที่ตกแต่งอย่างงดงามและเสียงดนตรีที่ครึกครื้น ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายแสนคนให้มาเข้าร่วมงานในทุกๆ ปีเลยค่ะ

แหล่งที่มาของภาพ

ในเทศกาลจะมีรถแห่ทั้งหมด 14 คัน แต่ละคันมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่หมวกซามูไร สิงโต ไปจนถึงสัตว์ทะเลและมังกร อีกทั้งความงดงามและความประณีตของรถแห่เหล่านี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอีกด้วย ถ้าใครสนใจก็ต้องลองไปชมความยิ่งใหญ่ด้วยตัวเองให้ได้เลยค่ะ

แหล่งที่มาของภาพ

■ ชื่อ: เทศกาลคาราสึคุนจิ / 唐津くんち

■ ที่อยู่: บริเวณรอบศาลเจ้าคาราสึ เมืองคาราสึ จังหวัดซากะ

■ วันที่จัดงาน: 2 – 4 พฤศจิกายนของทุกปี

■ เว็บไซต์ทางการ

3. มิเอะ: เทศกาลกลองไทโกะขอบคุณเทพเจ้า (神恩感謝日本太鼓祭)

เทศกาลกลองไทโกะขอบคุณเทพเจ้า เป็นเทศกาลตีกลองไทโกะแบบดั้งเดิมที่จัดขึ้นทุกปีโดยศาลเจ้าอิเสะในจังหวัดมิเอะ ศาลเจ้าอิเสะมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 2,000 ปี และดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาสักการะ เทศกาลกลองไทโกะนี้จัดขึ้นเพื่อถวายความขอบคุณแด่เทพเจ้าของญี่ปุ่น

แหล่งที่มาของภาพ

และในเทศกาลนี้ คุณจะได้ชมการแสดงสุดตระการตาจากคณะกลองไทโกะชื่อดังถึง 16 คณะในคราวเดียว! แต่ละคณะเชื่อว่าการที่ได้แสดงในเทสกาลนี้เป็นเกียรติอย่างยิ่ง และจะทุ่มสุดแรงในการตีกลองเพื่อส่งความขอบคุณไปให้ถึงเทพเจ้า นอกจากนี้ การแสดงถวายพิเศษที่จัดขึ้นในเขตใน (Naiku) ของศาลเจ้าก็เป็นไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด ทุกอย่างทำให้เทศกาลนี้กลายเป็นเทสกาลที่คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์อันทรงพลังของกลองไทโกะแบบดั้งเดิมอย่างใกล้ชิดเลยล่ะค่ะ

แหล่งที่มาของภาพ

■ ชื่อ: เทศกาลกลองไทโกะขอบคุณเทพเจ้า ณ ศาลเจ้าอิเสะ

■ ที่อยู่: บริเวณรอบโอคาเกะโยโกโจ เมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ

■ วันที่จัดงาน: ปลายเดือนตุลาคมหรือต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี

■ เว็บไซต์ทางการ

4. เกียวโต: เทศกาลเผาไฟ ฮิทาคิ ณ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (伏見稲荷大社火焚祭)

เทศกาลเผาไฟ ฮิทาคิไซ (Hitaki-sai) ณ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ เป็นเทศกาลดั้งเดิมที่จัดขึ้นโดยศาลเจ้าฟูชิมิอินาริในเกียวโต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขอบคุณเทพเจ้าอินาริที่ช่วยให้การเก็บเกี่ยวธัญพืชเป็นไปอย่างอุดมสมบูรณ์ ในพิธีจะมีการเผาแผ่นไม้ขอพร (Hitaki-gushi) หลายแสนชิ้นที่ผู้ศรัทธาทั่วประเทศนำมาถวาย พร้อมกับการร่ายรำ เพื่ออธิษฐานขอให้ปัดเป่าเภทภัยและนำพาความสุขมาให้ หากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวศาลเจ้าฟูชิมิอินาริในช่วงนี้ ก็ลองแวะไปชมกันได้นะคะ!

แหล่งที่มาของภาพ

■ ชื่อ: เทศกาลเผาไฟ ฮิทาคิไซ ณ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ

■ ที่อยู่: ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ เขตฟูชิมิ เมืองเกียวโต

■ วันที่จัดงาน: 8 พฤศจิกายนของทุกปี

■ เว็บไซต์ทางการ

5. มิยาซากิ: เทศกาลระบำคากุระ แห่งทาคาจิโฮ (神話の高千穂夜神楽まつり)

เทศกาลระบำคากุระยามค่ำคืนแห่งทาคาจิโฮ (Shinwa no Takachiho Yokagura Matsuri) เป็นเทศกาลดั้งเดิมที่จัดขึ้นในเมืองทาคาจิโฮ จังหวัดมิยาซากิ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี และคำว่า “ทาคาจิโฮ โยคากุระ” หมายถึงการแสดงพื้นบ้านที่จัดขึ้นในหมู่บ้านต่างๆ ประกอบด้วยการเล่านิทาน การเต้นรำ และอื่นๆ ซึ่งผสมผสานวัฒนธรรมการล่าสัตว์ การเก็บของป่า และการทำเกษตรในอดีต รวมถึงอิทธิพลจากศาสนาต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นการแสดงทางประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันของญี่ปุ่นไว้ด้วยกันค่ะ

แหล่งที่มาของภาพ

เทศกาลนี้ถือเป็นเทศกาลหลักของการแสดงโยคากุระ ซึ่งตลอดสองวันของเทศกาล เราจะได้ชมการแสดง “ทาคาจิโฮ โยคากุระ” ครบทุกชุด รวมทั้งหมดกว่า 33 ชุดเลยทีเดียว! ความหลากหลายของการแสดงทำให้เทศกาลดำเนินไปจนถึงดึกดื่น เป็นเทศกาลท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากจริงๆ ค่ะ

■ ชื่อ: เทศกาลระบำคากุระยามค่ำคืนแห่งทาคาจิโฮ / 神話の高千穂夜神楽まつり

■ ที่อยู่: คางุระเด็น ศาลเจ้าทาคาจิโฮ เมืองทาคาจิโฮ จังหวัดมิยาซากิ

■ วันที่จัดงาน: 22 – 23 พฤศจิกายนของทุกปี

■ เว็บไซต์ทางการ

6. คาโงชิมะ: เทศกาลโอฮาระ (おはら祭)

เทศกาลโอฮาระ (Ohara Matsuri) เป็นเทศกาลดั้งเดิมที่จัดขึ้นในเมืองคาโงชิมะ และเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคิวชูตอนใต้ และเริ่มจัดขึ้นในปี 1949 โดยเป็นกิจกรรมที่ชาวเมืองร่วมกันจัดขึ้นเพื่อฟื้นฟูเมืองหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

แหล่งที่มาของภาพ

ในเทศกาลนี้ ชาวเมืองคาโงชิมะทุกเพศทุกวัยจะออกมาเต้นรำไปตามเสียงเพลงบนท้องถนนอย่างสนุกสนาน ท่าเต้นของแต่ละกลุ่มจะแตกต่างกันไปมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และในช่วงท้ายที่เป็นการเต้นรวม จะมีผู้คนเกือบสองหมื่นคนร่วมเต้นรำไปพร้อมกันทั่วเมืองเลยค่ะ! ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็มีผู้เข้าร่วมจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วยนะคะ ด้วยเสื้อผ้าที่สวยงามและบรรยากาศที่คึกคัก ทำให้เทศกาลโอฮาระเป็นเทศกาลที่คุณจะต้องอยากมาสัมผัสด้วยตัวเองแน่นอนค่ะ

แหล่งที่มาของภาพ

■ ชื่อ: เทศกาลโอฮาระ / おはら祭

■ ที่อยู่: ฮิกาชิเซ็นโกคุโจ เมืองคาโงชิมะ จังหวัดคาโงชิมะ

■ วันที่จัดงาน: 2 – 3 พฤศจิกายนของทุกปี

■ เว็บไซต์ทางการ

7. โตเกียว: เทศกาลโทริโนะอิจิ  (酉の市)

เทศกาลโทริโนะอิจิ (Tori-no-Ichi) เป็นเทศกาลประจำปีที่จัดขึ้นตามศาลเจ้าที่เกี่ยวข้องกับนกอินทรีหรือนกต่างๆ ในโตเกียว โดยมีต้นกำเนิดจากศาลเจ้าโอโทริในอาซากุสะ ต่อมาศาลเจ้าฮานาโซโนะ ศาลเจ้าวาชิโนะมิยะ และอื่นๆ ก็ได้เข้าร่วมจัดงานด้วย ทำให้เทศกาลโทริโนะอิจิกลายเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วงในโตเกียวไปเลยค่ะ

แหล่งที่มาของภาพ

ถ้าพูดถึงเอกลักษณ์ของเทศกาลโทริโนะอิจิ ก็ต้องนึกถึงเครื่องรางนำโชค “คุมะเดะ” (Kumade) หรือคราดนั่นเองค่ะ เดิมทีคุมะเดะคือคราดไม้ไผ่ที่ใช้กวาดใบไม้ แต่ด้วยความหมายของคราดนั้นมีค่าเท่ากับ “การกวาดรวบรวม” จึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการ “กวาดรวบรวมโชคลาภ” ในภายหลัง และในเทศกาลนี้ เราจะได้เห็นคุมะเดะที่ตกแต่งอย่างสวยงามหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะนำไปแขวนประดับที่ผนังหรือพกติดตัวก็ดีทั้งนั้น ใครสนใจต้องลองไปเดินชมดูนะคะ!

แหล่งที่มาของภาพ

■ ชื่อ: เทศกาลโทริโนะอิจิ / 酉の市

■ ที่อยู่: ศาลเจ้าที่เกี่ยวข้องในโตเกียว

■ วันที่จัดงาน: เดือนพฤศจิกายนของทุกปี

■ เว็บไซต์ทางการ

8. ชิมาเนะ: เทศกาลคามิอาริไซ (神在祭)

เทศกาลคามิอาริไซ (Kamiari-sai) เป็นเทศกาลดั้งเดิมที่จัดขึ้น ณ ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ ในจังหวัดชิมาเนะ ตามตำนานเล่าว่า ในเดือน 10 ตามปฏิทินจันทรคติของทุกปี เทพเจ้าจากทั่วญี่ปุ่นจะมารวมตัวกันที่ดินแดนอิซุโมะ และด้วยเหตุนี้เอง เดือนนี้จึงถูกเรียกว่า “คันนะซึกิ” (เดือนที่ไม่มีเทพเจ้า) ในพื้นที่อื่น แต่ที่ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ กลับเรียกว่า “คามิอาริซึกิ” (เดือนที่เทพเจ้าอยู่) และเทศกาลคามิอาริไซก็จัดขึ้นในช่วงที่เหล่าทวยเทพมาชุมนุมกันนั่นเองค่ะ

แหล่งที่มาของภาพ

เนื่องจากเป็นช่วงที่เทพเจ้ามารวมตัวกันที่ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะเพื่อประชุมหารือเรื่องราวของปีหน้า พิธีกรรมต่างๆ ในเทศกาลคามิอาริไซจึงมีความขลังและศักดิ์สิทธิ์มาก แตกต่างจากเทศกาลรื่นเริงทั่วไปอย่างสิ้นเชิง การได้มาสัมผัสวัฒนธรรมและพิธีกรรมทางศาสนาของญี่ปุ่นผ่านเทศกาลนี้ น่าจะเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากและน่าจดจำมากเลยนะคะ

แหล่งที่มาของภาพ

■ ชื่อ: เทศกาลคามิอาริไซ ณ ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ

■ ที่อยู่: ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ เมืองอิซุโมะ จังหวัดชิมาเนะ

■ วันที่จัดงาน: เดือนพฤศจิกายนของทุกปี (เดือน 10 ตามปฏิทินจันทรคติ)

■ เว็บไซต์ทางการ

9. ยามากุจิ: เทศกาลรวงข้าว (稲穂祭)

เทศกาลรวงข้าว (Inaho Matsuri) เป็นเทศกาลที่จัดขึ้น ณ วัดโฮโจจิ ในจังหวัดยามากุจิ ชาวบ้านเชื่อกันว่าใครที่เข้าร่วมเทศกาลนี้จะสมหวังในความรักทุกคน และที่มาของเทศกาลนี้ย้อนไปถึงตำนานของวัดโฮโจจิในสมัยเอโดะ เล่ากันว่าเจ้าอาวาสของวัดทำลูกประคำหาย แต่มีคู่สามีภรรยาสุนัขจิ้งจอกช่วยตามหาจนเจอ หลังจากที่พวกมันตายไป ทางวัดก็ได้จัดงานศพให้อย่างสมเกียรติ และหลังจากนั้นเป็นต้นมา ผู้ที่มาสักการะที่วัดแห่งนี้ก็มักจะตามหาของที่หายไปเจอ จนพัฒนามาเป็นขบวนแห่ “งานแต่งงานของสุนัขจิ้งจอก” ในภายหลัง

แหล่งที่มาของภาพ

ด้วยเหตุนี้ เอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเทศกาลก็คือขบวนแห่ “งานแต่งงานของสุนัขจิ้งจอก” นั่นเองค่ะ ผู้คนจะสวมหน้ากากสุนัขจิ้งจอกและแห่เกี้ยวของคู่บ่าวสาวสุนัขจิ้งจอกอย่างยิ่งใหญ่จากวัดโฮโจจิไปยังสถานีซูโอฮานาโอกะ จากนั้นก็จะเต้นรำและแห่ขบวนกลับมายังวัด เป็นเทศกาลที่ทั้งสนุกสนานและน่าสนใจ ควรค่าแก่การไปชมจริงๆ ค่ะ!

■ ชื่อ: เทศกาลรวงข้าว / 稲穂祭

■ ที่อยู่: บริเวณรอบศาลเจ้าฟุคุโทคุอินาริ เมืองคุดามัตสึ จังหวัดยามากุจิ

■ วันที่จัดงาน: 3 พฤศจิกายนของทุกปี

■ เว็บไซต์ทางการ

10. อาโอโมริ: เทศกาลดอกเบญจมาศและใบไม้เปลี่ยนสี ณ ปราสาทฮิโรซากิ (弘前城菊と紅葉まつり)

เทศกาลดอกเบญจมาศและใบไม้เปลี่ยนสี ณ ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle Kiku to Momiji Matsuri) เป็นเทศกาลชมดอกไม้และใบไม้เปลี่ยนสีที่จัดขึ้นโดยเมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ โดยใช้สวนพฤกษศาสตร์ของปราสาทฮิโรซากิเป็นสถานที่จัดงาน ภายในงานมีการจัดแสดงศิลปะจากดอกไม้ นิทรรศการดอกเบญจมาศของชาวเมือง และเจดีย์ห้าชั้นที่ประดับด้วยดอกเบญจมาศ นอกจากนี้ ในสวนสาธารณะฮิโรซากิยังมีใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม เมื่อมองคู่กับทิวทัศน์ภูเขาจากประตูของปราสาทฮิโรซากิยิ่งทำให้งดงามขึ้นไปอีก เป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของฤดูใบไม้ร่วงอย่างแท้จริงค่ะ!

แหล่งที่มาของภาพ

■ ชื่อ: เทศกาลดอกเบญจมาศและใบไม้เปลี่ยนสี ณ ปราสาทฮิโรซากิ / 弘前城菊と紅葉まつり

■ ที่อยู่: สวนสาธารณะฮิโรซากิ เมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ

■ วันที่จัดงาน: ต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี

■ เว็บไซต์ทางการ

หลังจากที่ได้อ่านแนะนำ 10 เทศกาลนี้แล้ว พอจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นที่แตกต่างจากฤดูร้อนกันแล้วใช่ไหมคะ? เทศกาลในฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นการผสมผสานระหว่างประเพณี ธรรมชาติ และการแสดงความขอบคุณ เชื่อว่าไม่ว่าใครก็สามารถเพลิดเพลินไปกับเทศกาลเหล่านี้ได้อย่างแน่นอนค่ะ