“กลิ่นเป็นสิ่งที่บรรจุความทรงจำและความปรารถนา” นักปรัชญาชาวฝรั่งเศสเคยกล่าวไว้เช่นนั้น กลิ่นหอมช่วยกระตุ้นอารมณ์และแต่งแต้มความทรงจำในช่วงเวลาสำคัญของเรา น้ำหอมจึงเป็นสิ่งที่มีความเป็นส่วนตัวสูง การค้นหาน้ำหอมที่เหมาะสมกับตัวเอง เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่ช่วยให้คุณโดดเด่นในฝูงชน

1. J-scent

J-scent เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยมีเป้าหมายในการนำเสนอเสน่ห์ ความงาม และวัฒนธรรมอันโดดเด่นของญี่ปุ่นสู่สายตาชาวโลก พร้อมสอดแทรกกลิ่นหอมที่สะท้อนถึงชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น

ในปี 2024 น้ำหอมยอดนิยมที่สร้างกระแสมากที่สุด คือ “和肌(วะฮะดะ)” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายเรื่อง The House of the Sleeping Beauties ของคาวาบาตะ ยาสุนาริ กลิ่นหอมของผลไม้ที่ผสานกับน้ำนมและข้าวหมัก สร้างเป็นกลิ่นมัสก์อ่อนโยนคล้ายกลิ่นผิวหลังการอาบน้ำ อบอุ่นและชวนให้นึกถึงความทรงจำและความฝันอันงดงาม

ข้อมูลสินค้า

• ชื่อสินค้า: W10「和肌」
• ราคา: 50ml 4,950 เยน / 10ml 2,530 เยน
• OFFICIAL SITE

2. Aiam

Aiam นำเสนอนิยามใหม่ของความสุขด้วยแนวคิดที่ว่า “ความสุขขึ้นอยู่กับตัวเราเอง” น้ำหอมนี้ออกแบบมาเพื่อเน้นความเป็นตัวตนที่แท้จริง พร้อมเติมความมั่นใจให้คุณเปล่งประกาย

ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 ที่โตเกียว น้ำหอมยอดนิยมจากแบรนด์นี้คือ Chapter 65 ซึ่งมีการผสมผสานกลิ่นส้มและไวโอเลตเข้ากับความหอมอบอุ่นของผิวที่โดนแสงแดด กลิ่นหอมนี้ให้ความรู้สึกสง่างามและอบอุ่น

ข้อมูลสินค้า

• ชื่อสินค้า: チャプター65
• ราคา: 50ml 15,000 เยน / 8ml 4,000 เยน
• OFFICIAL SITE

3. Aux paradis

Aux Paradis เริ่มต้นในปี 2008 ด้วยน้ำหอม 4 กลิ่นหลัก ได้แก่ กุหลาบ ส้ม ดอกไม้ และสบู่ แบรนด์นี้ใช้วัตถุดิบธรรมชาติจากทั่วโลกเพื่อสร้างสรรค์น้ำหอมที่เข้ากับอากาศ ผิว และความละเอียดอ่อนในแบบญี่ปุ่น

หนึ่งในจุดเด่นของแบรนด์คือการใช้ “น้ำนมลา” จากฝรั่งเศส ทำให้น้ำหอมนี้ถูกเรียกขานว่า “แบรนด์น้ำนมลา” ปัจจุบัน Aux Paradis มีน้ำหอมทั้งหมด 11 กลิ่น รวมถึงกลิ่นพิเศษที่ออกตามฤดูกาล เหมาะสำหรับคนที่มองหากลิ่นหอมใหม่ ๆ ในช่วงเปลี่ยนฤดู

ข้อมูลสินค้า

• ชื่อสินค้า: Eau de Parfume
• ราคา: 15ml 2,860 เยน / 30ml 3,960 เยน / 60ml 4,950 เยน
• OFFICIAL SITE

4. Baum

Baum นำเสนอแนวคิดในการฟื้นฟูทั้งผิวพรรณและจิตใจด้วยพลังจากต้นไม้ สื่อถึงความแข็งแกร่งและการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ แบรนด์นี้เน้นการใช้วัตถุดิบจากพืชเป็นหลัก และถ่ายทอดความงามของต้นไม้ผ่านกลิ่นที่ช่วยเยียวยาจิตใจ

Baum มีน้ำหอม 3 กลิ่นหลัก ได้แก่ ลมแห่งพงไพร (Forest Breeze), เสียงแห่งป่า (Forest Voice), และ ลมหายใจแห่งไม้(Timber Breath) กลิ่นที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ ลมแห่งพงไพร ซึ่งมอบความสดชื่นจากกลิ่นไม้และซิตรัส ราวกับลมเย็นที่พัดผ่านป่าในวันที่ร้อนอบอ้าว

ข้อมูลสินค้า

• ชื่อสินค้า: Eau de Cologne Series
• ราคา: 60ml 12,100 เยน
• OFFICIAL SITE

5. Canoma

Canoma มาจากคำว่า 茶の間 (Chano-ma) ที่หมายถึงพื้นที่แห่งความเรียบง่ายในชีวิตประจำวัน รวมกับศิลปะแห่งพิธีชงชา สร้างสรรค์น้ำหอมที่มีคุณภาพสูงสำหรับชีวิตประจำวัน แบรนด์นี้โดดเด่นด้วยการตั้งชื่อกลิ่นที่สะท้อนความพยายามและความพิถีพิถัน เช่น “1-24” ซึ่งหมายถึงน้ำหอมสูตรแรกที่ผ่านการปรับแต่งถึง 24 ครั้ง

ความน่าสนใจของ Canoma คือการใช้วรรณกรรมคลาสสิกอย่าง เก็นจิโมโนกาตาริ (The Tale of Genji) มาเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อและเล่าเรื่องผ่านกลิ่นหอม ผู้ที่ชื่นชอบวรรณกรรมเรื่องนี้จะสามารถสัมผัสกลิ่นหอมที่พาคุณย้อนกลับไปสู่ยุคเฮอัน

ข้อมูลสินค้า

• ชื่อสินค้า: Canoma Eau de Parfum
• ราคา: เริ่มต้น 9,350 เยน
• OFFICIAL SITE

6. Imp.

Imp. ได้รับแรงบันดาลใจจากกลิ่นหอมที่แทรกตัวในช่วงเวลาน้ำชายามบ่ายสไตล์อังกฤษ กลิ่นชาแดงที่อบอวลผสมผสานกับกลิ่นธรรมชาติในอากาศ สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักปรุงน้ำหอมในการรังสรรค์กลิ่นที่เรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์

ข้อมูลสินค้า

• ชื่อสินค้า: Imp.
• ราคา: 8,800 เยน
• OFFICIAL SITE

7. Sholayered

“ความเรียบง่ายคือความหรูหรา” คือแนวคิดที่ Sholayered ต้องการส่งต่อ กลิ่นหอมที่แสนบางเบาและไม่แบ่งแยกเพศหรือยุคสมัย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการใช้น้ำหอม นอกจากนี้ยังมีบริการออกแบบกลิ่นหอมเฉพาะตัว รวมถึงกลิ่นหอมที่จำหน่ายเฉพาะบางสาขา

ข้อมูลสินค้า

• ชื่อสินค้า: ノンアルコールパフューム
• ราคา: เริ่มต้น 10,780 เยน
• OFFICIAL SITE

8. R-fragrance

ชื่อ “R” ใน R-fragrance มาจากคำว่า 凜 (Rin: ความสง่างาม), 豊富 (Rich: ความมั่งคั่ง), และ 稀有 (Rare: ความหายาก) แบรนด์นี้เน้นการสร้างกลิ่นหอมที่โดดเด่น ลึกซึ้ง และสะท้อนอารมณ์ในระดับจิตวิทยา

ข้อมูลสินค้า

• ชื่อสินค้า: オードパルファン
• ราคา: เริ่มต้น 18,150 เยน
• OFFICIAL SITE

เกี่ยวกับความเข้มข้นของน้ำหอม

เคยสงสัยไหมว่าทำไมน้ำหอมบางชนิดกลิ่นหอมจางลงเร็ว? ปัจจัยหลักอยู่ที่ความเข้มข้นของสารหอมในน้ำหอม ซึ่งส่งผลต่อความติดทนนานและราคาของน้ำหอมแต่ละประเภท

• Parfum (Perfume): สารหอมเข้มข้น 20-30% กลิ่นติดทนนานกว่า 6 ชั่วโมง
• Eau de Parfum (EDP): สารหอมเข้มข้น 15-20% กลิ่นติดทนนาน 4-6 ชั่วโมง
• Eau de Toilette (EDT): สารหอมเข้มข้น 5-12% กลิ่นติดทนนาน 3-4 ชั่วโมง
• Eau de Cologne: สารหอมเข้มข้น 3-6% กลิ่นติดทนนานประมาณ 2 ชั่วโมง

ไม่ว่าจะเป็นวันที่สดใสในฤดูใบไม้ผลิ วันที่ฝนตกโปรยปราย หรือช่วงบ่ายที่ร้อนอบอ้าว น้ำหอมที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสดชื่นและบันทึกช่วงเวลาเหล่านั้นไว้ในความทรงจำ ให้ทุกอารมณ์ของคุณมีเพื่อนคู่ใจเป็นกลิ่นหอมที่ลงตัว