อยากดื่มด่ำไปกับทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่นสุดเก๋มั้ย? ที่ญี่ปุ่นมี “สถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับหนังสือ” ซึ่งมีอยู่มากมายในญี่ปุ่น เช่น ร้านหนังสือไดคันยามะ สึทายะ ที่ได้ชื่อว่าเป็นร้านหนังสือที่สวยที่สุดในโลก หรือถนนหนังสือมือสองในย่านคันดะ จิมโบโช ของโตเกียว สถานที่เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับ “หนังสือ” ของญี่ปุ่น ดังนั้น โลกหนังสือของญี่ปุ่นจึงถูกเติมเต็มด้วยความคิดสร้างสรรค์และมีห้องสมุดที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังมากมายที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นความสนใจในหนังสือของผู้คนและดื่มด่ำไปกับหนังสือเหล่านั้น ในไต้หวันจะมีสำนวนที่กล่าวว่า “ฤดูใบไม้ร่วงไม่ใช่ฤดูกาลอ่านหนังสือ” แต่ในญี่ปุ่นกลับมีคำกล่าวที่ว่า “ฤดูใบไม้ร่วงคือฤดูกาลของการอ่านหนังสือ” เพราะนอกจากสภาพอากาศที่เย็นสบายแล้ว ฤดูใบไม้ร่วงยังเป็นฤดูกาลแห่งการเก็บเกี่ยว ซึ่งการอ่านยังสามารถเก็บเกี่ยวความรู้ได้เช่นกัน คราวนี้เราจะแนะนำห้องสมุดที่มีเอกลักษณ์ 6 แห่งในญี่ปุ่นให้ทุกคนได้เข้าไปสัมผัสโลกแห่งการอ่านหนังสือด้วยกัน!

ห้องสมุดเมืองยุสุฮาระ (ห้องสมุดเหนือเมฆ)

ห้องสมุดตั้งอยู่ในจังหวัดโคจิชื่อว่า ห้องสมุดเมืองยุสุฮาระ (檮原町立図書館) หรือที่เรียกกันว่า “ห้องสมุดเหนือเมฆ” (雲の上の図書館) ซึ่งยังถูกยกให้เป็น “ห้องสมุดที่สวยที่สุดในชิโกกุ” ด้วยการออกแบบของสถาปนิกชื่อดัง เคนโกะ คุมะ ห้องสมุดแห่งนี้เปิดใช้งานตั้งแต่ปี 2018 ด้วยแนวคิดการออกแบบที่เน้นการอยู่ร่วมกันของมนุษย์กับธรรมชาติ โดยใช้ไม้สนซีดาร์จากยุสุฮาระเป็นวัสดุหลัก ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีมายาวนานของยาบาระ และเพื่อให้กลายเป็นฐานสำหรับการเผยแพร่ข้อมูล การออกแบบหลังคาและโครงสร้างไม้ในห้องสมุดนี้ทำให้เพดานดูเหมือนป่าที่กลับด้าน ด้วยการออกแบบที่น่าทึ่งนี้ไม่เพียงแต่ได้รับการชื่นชมอย่างมาก แต่ยังได้รับรางวัลหลายรางวัล และกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของสถาปัตยกรรมในจังหวัดโคจิ

ห้องสมุดเหนือเมฆไม่เพียงแต่มีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่แตกต่างจากห้องสมุดอื่นๆ เพื่อสร้างสถานที่พักผ่อนที่ผู้คนจากทุกวัยสามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนความคิดกันได้อย่างง่ายดาย ห้องสมุดแห่งนี้มีทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับปีนผาและคาเฟ่ ทำให้ห้องสมุดไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่เรียนรู้เท่านั้น

นอกจากนี้ หากเปรียบเทียบกับกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดของห้องสมุดอื่น ๆ แล้ว ห้องสมุดบนเมฆมีความเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมากกว่า ไม่เพียงแต่เปิดให้เข้าชมได้อย่างเสรี แต่ยังสามารถรับประทานอาหารและพูดโทรศัพท์ได้ด้วย อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีความสุภาพ ไม่รบกวนผู้อื่น เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้พื้นที่ร่วมกันได้อย่างสงบและมีความสุข

ข้อมูลสถานที่

• ที่อยู่: 1212-2 ยุสุฮาระ ชุมชนยาบะระ เขตทาคาโอกะ จังหวัดโคจิ
• การเดินทาง: ลงจาก JR “สถานีซูซากิ” แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสของโคจิโคเรียวไปยัง “สถานียุสุฮาระ”
• เวลาเปิดทำการ: 9.00 น. – 20.00 น.
• เวลาปิดทำการ: ทุกวันอังคาร (ทุกสัปดาห์) และวันศุกร์ (สัปดาห์สุดท้ายของเดือน)
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

ห้องสมุดเมืองทาเคโอะ

ห้องสมุดเมืองทาเคโอะ ตั้งอยู่ในจังหวัดซากะ (武雄市図書館) หรือที่เรียกกันว่า “ห้องสมุดที่สวยที่สุด” หลังจากการปรับปรุงในปี 2013 ห้องสมุดเมืองทาเคโอะได้รวมเอาร้านหนังสือ Tsutaya และ Starbucks เข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นห้องสมุดสาธารณะแห่งแรกของญี่ปุ่นที่นำร้านหนังสือและคาเฟ่รวมเข้าด้วยกัน  ห้องสมุดทาเคโอะถูกออกแบบปรับปรุงโดย มิยาฮาระ ชิน ซึ่งเป็นสถาปนิกของ Tsutaya โดยหลังคามีการออกแบบให้มีช่องแสงทรงกลมขนาดใหญ่เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในตัวอาคารทำให้พื้นที่สว่างและดูกว้างยิ่งขึ้น หลังจากการปรับปรุง ห้องสมุดทาเคโอะไม่เพียงแต่ได้รับรางวัล “Good Design Award” แต่ในปีเดียวกันนั้นเองยังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม นอกจากนักอ่านหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นแล้ว นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ยังไปเดินทางมาเยี่ยมชมอีกด้วย ส่งผลให้เมืองที่มีประชากรเพียงห้าหมื่นคนนี้มีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนเข้ามาเกือบหนึ่งล้านคน ซึ่งสามารถพูดได้ว่านี่เป็นโครงการปรับปรุงห้องสมุดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

เพื่อไม่ให้รบกวนผู้อ่านคนอื่น ห้องสมุดเมืองทาเคโอะจึงเปิดให้ถ่ายรูปได้เพียงสองจุดเท่านั้น หากต้องการถ่ายรูปเพื่อการสัมภาษณ์พิเศษ สามารถยื่นขออนุญาตล่วงหน้าได้ที่อีเมล: epochal@epochal.city.takeo.lg.jp

ข้อมูลสถานที่

• ที่อยู่: 1-5304 ทาเคโอะ ชุมชนทาเคโอะ เมืองทาเคโอะ จังหวัดซากะ
• การเดินทาง: เดินจากสถานี JR สายซาเซโบะ ที่สถานี “ทาเคโอะออนเซ็น” ประมาณ 15 นาที หรือนั่งรถบัสจากสถานี: 1.) รถบัสยูโตะคู ไปยังสถานี “Toshokan-mae” หรือสถานี “หน้าห้องสมุด” 2.) รถบัส JR คิวชู ไปยังสถานี “ยูเมะทาวน์”
• เวลาเปิดทำการ: 9.00 น. – 21.00 น.
• เวลาปิดทำการ: –
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมคาโดคาวะ

ตั้งอยู่ที่เมืองโทโกโรซาวะ ในจังหวัดไซตามะ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมคาโดคาวะ (Kadokawa Musashino Museum) เป็นโครงการร่วมระหว่างบริษัทสำนักพิมพ์มังงะ KADOKAWA Corperation และเมืองโทโกโรซาวะ ซึ่งเป็นสถานที่รวมห้องสมุด หอศิลป์ และพิพิธภัณฑ์ เข้าไว้ด้วยกัน สถานที่แห่งนี้ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง คุมะ เค็งโกะ ด้วยการใช้หินแกรนิตกว่า 20,000 แผ่น ให้ความรู้สึกเหมือนหินที่ผุดขึ้นมาจากแรงดันของเปลือกโลก ซึ่งมีความโดดเด่นสวยงามอย่างมาก และภายในส่วนที่เป็นไฮไลท์ที่สุดคือ “โรงละครชั้นหนังสือ” (Boolshelf Theater) ที่ยึดพื้นที่จากชั้น 4 ถึงชั้น 5 มีความสูง 8 เมตร การอยู่ภายใต้ชั้นหนังสือขนาดใหญ่แห่งนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในฉากของ Harry Potter นอกจากนี้ยังมีการแสดง Projection mapping ฉายภาพแสงสีประกอบดนตรีที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับกับหนังสือ สร้างบรรยากาศสุดแฟนตาซีให้กับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม และสำหรับใครที่เป็นแฟนคลับของ YOASOBI ไม่ควรพลาดเพราะที่นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำวิดีโอเพลงของ YOASOBI ในงาน NHK Red and White Song Battle ปี 2020 อีกด้วย 

พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมคาโดคาวะไม่มีข้อห้ามในการถ่ายภาพ แต่การเข้าชมต้องซื้อตั๋ว โดยมีตั๋วหลายประเภทให้เลือกดังนี้: ตั๋วห้องสมุด ตั๋วมาตรฐาน ตั๋วเข้าชมทุกโซน สำหรับ 1 วัน และตั๋ว Last-Minute

รายละเอียดแต่ละประเภทของตั๋วจะมีการกำหนดราคาและเวลาที่สามารถใช้งานได้ และขอบเขตการเข้าชมที่แตกต่างกัน

ข้อมูลสถานที่

• ที่อยู่: 3-31-3 ฮิกาชิ โทโกโรซาวะ วาดะ เมืองโทโกโรซาวะ จังหวัดไซตามะ
• การเดินทาง: เดินจากสถานี JR สายมูซาชิโนะ สถานี “ฮิกาชิ โทโกโรซาวะ” ประมาณ 10 นาที
• เวลาเปิดทำการ: วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี เวลา 10.00 น. – 18.00 น., วันศุกร์และวันเสาร์ เวลา 10.00 น. – 21.00 น.
• เวลาปิดทำการ: ทุกวันอังคารที่ 1, 3, และ 5 ของเดือน (หากตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะปิดทำการในวันถัดไป)
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

ห้องสมุดอุมิมิไร คานาซาวะ

ตั้งอยู่ในเมืองคานาซาวะ จังหวัดอิชิคาวะ ห้องสมุดอุมิมิไร คานาซาวะ (Kanazawa Umimirai Library) เปิดให้บริการครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม ปี 2011 ได้รับการยกย่องจาก BBC ของอังกฤษว่าเป็น “หนึ่งในสี่ห้องสมุดสาธารณะที่สวยที่สุดในโลก” และยังถูกจัดอันดับในคู่มือท่องเที่ยวของสหรัฐอเมริกาว่าเป็นหนึ่งใน “20 ห้องสมุดที่มีเสน่ห์ที่สุดในโลก” ด้วยแนวคิดในการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากฟองน้ำทะเล มีการออกแบบจากฟองคลื่นทะเล กลายเป็นหน้าต่างกลมมากกว่า 6,000 บาน ที่มีขนาด 200, 250, และ 300 มม. ทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาอย่างเป็นระเบียบ เติมเต็มภายในด้วยแสงอ่อนๆ และมีพื้นที่โล่งกว้างสูงช่วยให้บรรยากาศการอ่านหนังสือรู้สึกเงียบสงบและสบาย

หากต้องการถ่ายภาพในห้องสมุดอุมิมิไร คานาซาวะ จำเป็นต้องติดต่อที่เคาน์เตอร์บริการชั้นหนึ่งเพื่อขออนุญาต และต้องกรอกแบบฟอร์มเหตุผลที่ต้องการถ่ายภาพด้วยภาษาญี่ปุ่นและแสดงหลักฐานประจำตัว หลังจากผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่แล้วจะได้รับ “ใบอนุญาตถ่ายภาพ” ที่ต้องติดตัวไว้ตลอดเวลาขณะถ่ายภาพภายในห้องสมุด

ข้อมูลสถานที่

• ที่อยู่: 1-1 เทรานากะมาจิ เมืองคานาซาวะ จังหวัดอิชิคาวะ
• การเดินทาง: นั่งรถบัสจาก Hokuriku Railroad ลงที่สถานี “หน้าห้องสมุดอุมิมิไร คานาซาวะ” (Kanazawa Umimirai toshokan mae) 
• เวลาเปิดทำการ: วันธรรมดา เวลา 10.00 น. – 19.00 น., วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดราชการ เวลา 10.00 น. – 17.00 น.
• เวลาปิดทำการ: ทุกวันพุธ (เปิดในวันหยุดนักขัตฤกษ์) ในช่วงที่มีการเตรียมการพิเศษ และช่วงเทศกาลปีใหม่ (โปรดดูรายละเอียดในประกาศเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ)
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

ห้องสมุดเมืองโทยามะ

ตั้งอยู่ในเมืองโทยามะ ห้องสมุดเมืองโทยามะ (Toyama City Library) เป็นสถานที่ใช้ร่วมกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะกระจกโทยามะ และได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี 2015 อาคารนี้ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังของญี่ปุ่น คุมะ เค็งโกะ ภายนอกใช้วัสดุท้องถิ่นอย่างหินอ่อน กระจก และอะลูมิเนียม มีการจัดวางสลับกระจัดกระจายกันไป ทำให้สามารถสะท้อนแสงอาทิตย์ได้จากทุกมุม ด้วยเอกลักษณ์ของอาคารแห่งนี้จึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองโทยามะ โดยได้ชื่อว่า “TOYAMA KIRARI” (KIRARI ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงการส่องแสงประกาย) ส่วนภายในห้องสมุดใช้ไม้ที่ปลูกภายในท้องถิ่น ทำให้ได้กลิ่นหอมของไม้ และใช้กระจกเพื่อให้พื้นที่ดูกว้างขึ้น มีการออกแบบเพดานให้แสงอาทิตย์สามารถส่องผ่านลงมาได้ ช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของแสงและเงา รวมทั้งให้ความรู้สึกเหมือนอาบแสงแดดอ่อนๆ

ห้องสมุดแห่งนี้คุณสามารถถ่ายรูปในห้องสมุดได้ ทางห้องสมุดได้ตั้งจุดถ่ายรูปที่ดีที่สุดเพื่อให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมสามารถถ่ายรูปที่ถูกใจได้ นอกจากนี้ยังมีงานศิลปะจากกระจกให้ชมภายใน แต่หากต้องการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะกระจกบนชั้น 6 คุณไม่สามารถถ่ายรูปได้และต้องซื้อตั๋วที่ชั้นหนึ่งก่อน ราคาตั๋วอยู่ที่ 200 เยน โดยนักเรียนมัธยมต้นและเด็กที่อายุน้อยกว่านี้จะเข้าฟรี

ข้อมูลสถานที่

• ที่อยู่: 5-1 นิชิมาจิ เมืองโทยามะ
• การเดินทาง: เดินจากสถานี JR โทยามะ ประมาณ 20 นาที หรือนั่งรถราง โทยามะ ไปยังสถานี “Nishi cho”
• เวลาเปิดทำการ: วันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี เวลา 09.30 น. – 19.00 น., วันศุกร์และวันเสาร์ 09:30–20:00 น.
• เวลาปิดทำการ: ปิดทุกวันพุธแรกของเดือน (หากตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะปิดทำการในวันถัดไป)
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

ห้องสมุดกลางเมืองกิฟุ

เดิมทีที่ตั้งของห้องสมุดกลางเมืองกิฟุเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยกิฟุมาก่อน ห้องสมุดกลางเมืองกิฟุ (Gifu City Central Library) ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง อิโต โตโย ที่ใช้เวลาก่อสร้างกว่าสี่ปี และเสร็จสิ้นในปี 2015 อาคารมีลักษณะโค้งมน ที่รวบรวมทั้งห้องสมุด ศูนย์การเรียนรู้ และส่วนสื่อมัลติมีเดียไว้ด้วยกัน ห้องสมุดกลางเมืองกิฟุยังถูกเรียกอีกชื่อว่า “minna no mori” (ป่าของทุกคน) ซึ่งแสดงถึง ‘การกลับสู่ธรรมชาติ’ และ ‘การถ่ายทอดความรู้’ ภายในห้องสมุดได้ทำลายกรอบความคิดเดิมๆ เกี่ยวกับการแบ่งโซน โดยใช้โครงสร้างคล้ายโคมไฟกลม (globe) ในการแบ่งแยกพื้นที่ต่างๆ เช่น โซนสำหรับวัยรุ่น และโซนอ่านหนังสือร่วมกันของผู้ปกครองและเด็ก แต่ละโซนมีการออกแบบที่เฉพาะตัว โคมไฟเหล่านี้ทำจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์สีขาว แต่ละอันมีลวดลายที่ไม่เหมือนใคร แสงแดดจะส่องลงมาตามโค้งของโคม ซึ่งช่วยกระจายแสงอย่างนุ่มนวลเต็มทั้งพื้นที่ สร้างบรรยากาศที่สงบเงียบเหมาะสำหรับการอ่านหนังสือ นอกจากนี้ โคมไฟยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับที่สามารถปรับแสงไฟ ระบบระบายอากาศ และการระบายอากาศได้อีกด้วย

ห้องสมุดกลางเมืองกิฟุไม่ได้มีการระบุว่าห้ามถ่ายรูปที่ชัดเจน แต่ควรระมัดระวังไม่ให้รบกวนผู้อื่นขณะถ่ายรูป

ข้อมูลสถานที่

• ที่อยู่: 40-5 สึคาสะ เมืองกิฟุ จังหวัดกิฟุ
• การเดินทาง: เดินประมาณ 25 นาทีจากสถานี JR กิฟุ หรือสถานีเมเท็ตสึ กิฟุ หรือสามารถขึ้นรถบัสจากสถานีไปยังป้าย “Gifu City Hall / Media Cosmos” “City Hall / Media Cosmos West” “Civic Hall / Court Front”, หรือ “City Hall / Uguisudani High School Entrance”
• เวลาเปิดทำการ: 9.00 น. – 20.00 น.
• เวลาปิดทำการ: ปิดทุกวันอังคารสุดท้ายของเดือน (หากตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะปิดทำการในวันถัดไป และหากตรงกับช่วงวันหยุดปีใหม่จะปิดในวันอังคารก่อนหน้า) และช่วงวันหยุดปีใหม่: 31 ธันวาคม – 3 มกราคม
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

สัมผัสความงดงามและบรรยากาศแห่งศิลปะในห้องสมุดของญี่ปุ่น

ครั้งนี้เราได้แนะนำห้องสมุด 6 แห่งในญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับญี่ปุ่นแล้ว ห้องสมุดไม่เพียงแต่เป็นที่เก็บรวบรวมหนังสือไว้เท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่ผู้ที่รักการอ่านสามารถพูดคุยกับหนังสือได้ ด้วยการออกแบบของสถาปนิกที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ และมีการออกแบบและจัดสรรค์พื้นที่ได้อย่างลงตัว ทำให้ผู้คนต่างอยากกลับมาเยี่ยมชมห้องสมุดเหล่านี้อีกครั้ง คุณลองมาใช้เวลาสัมผัสบรรยากาศของการอ่านในห้องสมุดเหล่านี้ดู!