ในฤดูใบไม้ร่วง นักท่องเที่ยวมากมายมุ่งหน้าสู่ภูมิภาคไทฮาคุของญี่ปุ่นเพื่อสัมผัสความงามของใบไม้เปลี่ยนสี ไม่เพียงแค่สถานที่ดังอย่างทะเลสาบโทวาดะและโอเซอิริ แต่ยังมีจุดชมใบไม้หลากสีที่สามารถเดินทางได้ง่ายด้วยระบบขนส่งสาธารณะ มาเยือนสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดอาโอโมริ อิวาเตะ ฟุกุชิมะ และมิยางิ แล้วสัมผัสบรรยากาศที่งดงามกันเถอะ!

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในไทฮาคุ #1: ปราสาทฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ

เมื่อพูดถึงสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีในภูมิภาคไทฮาคุของญี่ปุ่น ที่แรกที่ต้องนึกถึงคือจังหวัดอาโอโมริ ซึ่งมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงมากมาย รวมถึงปราสาทฮิโรซากิที่มีประวัติยาวนานและความงดงามตามฤดูกาล แม้ว่าขณะนี้ปราสาทฮิโรซากิจะอยู่ระหว่างการบูรณะและคาดว่าจะเสร็จในปี 2026 แต่เพียงแค่สวนรอบนอกของปราสาทฮิโรซากิที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีก็ถือว่าคุ้มค่าแก่การชมแล้ว แนะนำให้ทุกคนไปเดินเล่นชมบรรยากาศกัน!

ในทุกฤดูใบไม้ร่วง ปราสาทฮิโรซากิจะจัดงานเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งมีกิจกรรมการแสดงและการจัดแสงไฟที่สวยงาม แนะนำให้ตรวจสอบวันที่ก่อนออกเดินทาง เผื่อจะได้ไปทันงานพอดี!

• ที่อยู่: 1 Shimoshirogane-cho, Hirosaki-shi, Aomori
• การเดินทาง: นั่ง JR มาลงสถานี Hirosaki แล้วนั่งรถบัส Dotemachi มาลงที่สถานี Shiyakusho-mae แล้วเดินอีกประมาณ 4 นาที

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในไทฮาคุ #2: กระเช้าฮักโคดะ จังหวัดอาโอโมริ

ถัดไปคือกระเช้าลอยฟ้าภูเขาฮักโกดะ ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมในทุกฤดูใบไม้ร่วง หากมี JR PASS สามารถใช้ขึ้นรถบัส JR ซึ่งมีเที่ยววิ่งประจำไปยังสถานที่นี้ได้ฟรี แนะนำให้ออกเดินทางแต่เช้าเพื่อขึ้นรถบัสเที่ยวแรก เนื่องจากช่วงนี้คนจะเยอะมาก ตั้งแต่ซื้อตั๋วจนขึ้นกระเช้าอาจต้องรอคิวประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง และมีโอกาสพลาดรถบัสขากลับไปยังอาโอโมริถ้าลงจากกระเช้าไม่ทัน!

• ตารางเวลา JR บัส

เนื่องจากระดับความสูงที่แตกต่างกัน วิวจากเชิงเขาจนถึงยอดเขาฮักโกดะจึงมีความหลากหลาย เมื่อปีที่แล้วผู้เขียนไปชมช่วงที่ลมแรงและอากาศเย็นจัด ด้านล่างเป็นใบไม้เขียวเหลืองสดใส เมื่อขึ้นไปกลางเขาก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแดง และบริเวณยอดเขายังมีหิมะปกคลุมอยู่ด้วย นับเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่จริงๆ!

• ที่อยู่: 1-12 Arakawa Samizawa, Aomori-shi, Aomori
• การเดินทาง: นั่ง JR มาลงสถานี Aomori แล้วนั่ง JR Bus มาลงที่สถานี Sōdō-mae

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในไทฮาคุ #3: ศาลเจ้าจุงะคุ จังหวัดอาโอโมริ

ต่อมาคือศาลเจ้าโจคุระ ซึ่งสามารถเดินทางด้วยรถบัส JR ได้เช่นกัน ผู้ที่มาที่นี่ส่วนใหญ่จะเลือกพักที่โรงแรมออนเซ็นโจคุระ จึงทำให้บรรยากาศเงียบสงบมาก ศาลเจ้าขนาดเล็กแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีด้านหลัง ซึ่งสวยงามมาก

• ที่อยู่: ภูเขาฮักโกดะ, อาราคาวะ, เมืองอาโอโมริ จังหวัดอาโอโมริ (โรงแรมโจคุระออนเซ็น)
• การเดินทาง: นั่ง JR ลงที่สถานี Aomori และต่อรถบัส JR ลงที่สถานี Jogakura Onsen

และจุดเช็กอินยอดฮิตบนโซเชียล “สะพานโจคุระ” ก็อยู่ใกล้กับออนเซ็นแห่งนี้ หลายคนจึงเลือกเดินจากศาลเจ้าไปยังสะพานโจคุระ โดยใช้เวลาประมาณ 25 – 30 นาที แต่อย่าลืมตรวจสอบเวลารถบัสขากลับให้ดีเพื่อไม่ให้พลาดเที่ยวสุดท้าย

• ที่อยู่: Minamiarakawa-yama, เมืองอาโอโมริ จังหวัดอาโอโมริ
• การเดินทาง: นั่ง JR ลงที่สถานี Aomori และต่อรถบัส JR ลงที่สถานี Jogakura Onsen จากนั้นเดินประมาณ 25 นาที

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในไทฮาคุ #4: วัดโมสึจิ จังหวัดอิวาเตะ

View this post on Instagram

A post shared by 毛越寺 Motsuji【公式】 (@motsuji_official)

ที่จังหวัดอิวาเตะสามารถเดินทางไปวัดโมสึจิได้ด้วยรถบัสหมุนเวียนประจำเมือง วัดนี้เป็นศาสนสถานทางพุทธศาสนาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานพิเศษตั้งแต่ปี 1952 ด้วยสวนกว้างขวางและบรรยากาศเงียบสงบ ในฤดูใบไม้ร่วงที่นี่จะมีใบไม้เปลี่ยนสีเป็นทิวทัศน์สวยงาม เหมาะสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศสบายๆ เดินชมธรรมชาติ

• ที่อยู่: 58 Hiraizumi Osawa, Hiraizumi-cho, Nishiiwai-gun, Iwate
• การเดินทาง: นั่ง JR สาย Tohoku ลงที่สถานี Hiraizumi และต่อรถบัสหมุนเวียน Rururun ลงที่สถานี Motsuji

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในไทฮาคุ #5: ช่องเขาเกบิเค จังหวัดอิวาเตะ

ช่องเขาเกบิเคเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นักท่องเที่ยวจากไต้หวันชื่นชอบ ด้วยความสวยงามของหุบเขาที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง แนะนำให้นั่งเรือชมวิว “เกบิเคฟูเนะ” เพื่อสัมผัสทิวทัศน์จากมุมมองที่หลากหลาย เพลิดเพลินกับการล้อมรอบด้วยใบไม้เปลี่ยนสีอย่างเต็มอิ่ม

• ที่อยู่: 467 Nagasaka-cho, Higashiyama-cho, Ichinoseki, Iwate
• การเดินทาง: นั่ง JR สาย Ofunato ลงที่สถานี Geibikei และเดินประมาณ 5 นาที

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในไทฮาคุ #6: มัตสึชิมะ จังหวัดมิยางิ

ไปทางใต้ต่อไปยังมัตสึชิมะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่มีทิวทัศน์สวยงามในทุกฤดู แต่ช่วงปลายตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายนจะมีใบไม้เปลี่ยนสีเพิ่มความงาม วัดซุยกังจิและเอนซูอินเป็นจุดชมใบไม้ยอดนิยม อีกทั้งยังมีการจัดแสดงแสงไฟในช่วงกลางคืน แนะนำให้ล่องเรือชมมัตสึชิมะในตอนกลางวันและชมใบไม้เปลี่ยนสีในยามค่ำคืน

View this post on Instagram

A post shared by 日本東北宮城旅遊導覧【公式】 (@tohoku_miyagi)

• ที่อยู่: Matsushima-machi, Miyagi-gun, Miyagi
• การเดินทาง: นั่ง JR ลงที่สถานี Matsushima Kaigan และเดินประมาณ 5 – 15 นาที

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในไทฮาคุ #7: ปราสาทไอซุวากามัตสึ จังหวัดฟุกุชิมะ

View this post on Instagram

A post shared by 【鶴ヶ城公式】会津若松城 | Tsuruga-jo Castle Official (@aizu_tsurugajo)

สถานที่สุดท้ายทางตอนใต้ของจังหวัดฟุกุชิมะคือปราสาทไอซุวากามัตสึ ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “ปราสาทสึรุกะ” เป็นหนึ่งในร้อยปราสาทชื่อดังของญี่ปุ่น สร้างขึ้นใหม่ในปี 1965 และมีการบูรณะปรับปรุงเรื่อยมา ทุกปีในฤดูใบไม้ร่วง ปราสาทจะจัดแสงไฟดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

บริเวณรอบๆ ปราสาทไอซุวากามัตสึยังมีต้นแปะก๊วยที่เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความงดงามสุดโรแมนติกที่ไม่ควรพลาดในฤดูกาลนี้

• ที่อยู่: 1-1 Otemachi, Aizuwakamatsu-shi, Fukushima
• การเดินทาง: นั่ง JR ลงที่สถานี Aizuwakamatsu และต่อรถบัส AKABE ลงที่สถานี Tsurugajo-guchi หรือ Tsurugajo Kitaguchi จากนั้นเดินประมาณ 3-5 นาที

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในไทฮาคุ #8: สวนโอยาคุเอ็น จังหวัดฟุกุชิมะ

จุดสุดท้ายคือสวนโอยาคุเอ็น ซึ่งสามารถซื้อตั๋วเข้าชมร่วมกับปราสาทไอซุวากามัตสึได้ เดิมทีเป็นสวนสมุนไพรของตระกูลมัตสึไดระ มีสมุนไพรมากถึง 400 ชนิด นอกจากนี้ยังมีดอกโบตั๋น ดอกบัว และใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์ตลอดทุกฤดู

• ที่อยู่: 8-1 Hanaharu-cho, Aizuwakamatsu-shi, Fukushima
• การเดินทาง: นั่ง JR ลงที่สถานี Aizuwakamatsu และต่อรถบัส AKABE ลงที่สถานี Aizuwakamatsu Shoko Kaigisho-mae หรือ Oyakuen จากนั้นเดินประมาณ 3-5 นาที

คำแนะนำสำหรับฤดูกาลใบไม้เปลี่ยนสีในไทฮาคุ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีในภูมิภาคไทฮาคุคือปลายตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายน ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามภูมิประเทศ ระดับความสูง และสภาพอากาศประจำปี แนะนำให้วางแผนชมหลายจุดและตรวจสอบข้อมูลใบไม้เปลี่ยนสีล่าสุดก่อนออกเดินทาง เพื่อปรับเส้นทางให้เหมาะสมจะทำให้การเดินทางสนุกยิ่งขึ้น!