รีวิวจัดเต็ม! 1955 Tokyo Bay by Hoshino Resorts โรงแรมใหม่ธีมอเมริกันเรโทร ใกล้ดิสนีย์แลนด์ ที่สายเที่ยวห้ามพลาด!

| By Git house Git house

รีวิวจัดเต็ม! 1955 Tokyo Bay by Hoshino Resorts โรงแรมใหม่ธีมอเมริกันเรโทร ใกล้ดิสนีย์แลนด์ ที่สายเที่ยวห้ามพลาด!

สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้มีข่าวดีมาบอกสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์! โรงแรมใหม่ล่าสุดจากเครือ Hoshino Resorts ชื่อว่า “1955 Tokyo Bay by Hoshino Resorts” เปิดให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2024 ที่ผ่านมานี่เอง! โรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่เมืองอุรายาสุ จังหวัดชิบะ ใกล้กับโตเกียวดิสนีย์แลนด์มากๆ แม้ว่าจะไม่ใช่โรงแรมพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการของ Tokyo Disney Resort แต่ขอบอกเลยว่าตั้งแต่ธีมโรงแรมไปจนถึงดีไซน์ทุกซอกทุกมุม ถูกสร้างสรรค์มาเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ดิสนีย์แลนด์โดยเฉพาะเลยค่ะ!

นอกจากจะมีระบบเช็คอิน-เช็คเอาท์ด้วยตัวเองที่สะดวกสบาย พื้นที่ส่วนกลางสุดหรู และบริการอาหารที่ตอบโจทย์ผู้ที่ตื่นเช้ากลับดึกแล้ว ยังมีรถบัสรับส่งฟรีไปยังสถานีรถไฟและดิสนีย์แลนด์อีกด้วยนะ! ที่สำคัญโรงแรมนี้ยังเป็นมิตรกับครอบครัวที่มีเด็กเล็กอีกด้วย เขามีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็กเล็กอย่างเพียบพร้อม! รับรองว่าทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆ จะเข้าพักได้อย่างสบายใจ พร้อมเดินทางเข้าสู่ “ดินแดนแห่งความฝัน” ได้เลย!

ราคาห้องพัก圖片來源

ส่วนเรื่องราคา ถ้าจองล่วงหน้าดีๆ อาจจะได้ราคาพิเศษช่วงหน้าร้อน และจะตกประมาณ 6,000 เยนต่อคน ใครที่วางแผนเที่ยวเน้นตะลุยดิสนีย์แลนด์เป็นหลัก โรงแรมนี้ถือเป็นตัวเลือกที่พักที่สุดยอดมากๆเลยนะ บทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจโรงแรมแบบเจาะลึก ตั้งแต่ดีไซน์ การเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวกสุดปัง ไปจนถึงห้องพักวิวสวยอลังการ รีบไปดูกันเลย!

โรงแรม “1955 Tokyo Bay by Hoshino Resorts”

เนื่องจากดิสนีย์แลนด์แห่งแรกเปิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1955 ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โรงแรมนี้จึงออกแบบโดยใช้ธีม “กลิ่นอายอเมริกันยุค 1950” ตั้งแต่การตกแต่งภายใน ชุดยูนิฟอร์มของพนักงาน ไปจนถึงของประดับตามมุมต่างๆ ล้วนเต็มไปด้วยกิมมิคน่ารักๆ ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในปี 1955 ทันทีที่ก้าวเข้ามา และสัมผัสโลกสไตล์อเมริกันแบบ “OLDIES GOODIES (เก่าแต่เก๋า)” ได้เต็มที่เลย

ดีไซน์เรโทร

ทำเลใกล้ดิสนีย์แลนด์

“1955 Tokyo Bay” ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี JR Shin-Urayasu บนสาย Keiyo ติดกับอ่าวโตเกียว และใกล้โตเกียวดิสนีย์แลนด์มากๆ เลย

โรงแรมมีบริการรถบัสรับส่งฟรี 2 สาย คือไป-กลับ “สถานี Shin-Urayasu” และไป-กลับ “ดิสนีย์แลนด์” ไม่ว่าจะเดินทางเข้าตัวเมืองโตเกียวหรือจะไปดิสนีย์แลนด์ก็สะดวกสุดๆไปเลย

รถบัสรับส่ง

รถบัสมีรอบวิ่งเยอะมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาฮิตที่คนไปดิสนีย์แลนด์กัน โดยจะมีรถออกทุกๆ 15 นาที และไม่ต้องจองล่วงหน้าด้วย คุณไม่ต้องกลัวตกรถหรอก แถมถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าป้ายทะเบียนรถบัสยังเป็นเลข 1955 อีกด้วยนะ เป็นกิมมิคเล็กๆ ที่น่ารักชวนให้ยิ้มจริงๆ

ตารางเวลารถบัส

ทุกคนสามารถตรวจสอบจุดขึ้นรถและตารางเวลารถบัสได้ที่ เว็บไซต์ทางการ และขอแนะนำให้เช็คเวลาก่อนวางแผนการเที่ยวนะคะ!

สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางสุดหรูและสะดวกสบาย

ล็อบบี้ชั้น 2

เมื่อมาถึงโรงแรม ต้องขึ้นไปเช็คอินที่ชั้น 2 ก่อนเลย เคาน์เตอร์เช็คอินออกแบบตามสไตล์ธนาคารอเมริกันยุค 1955 ส่วนชุดยูนิฟอร์มพนักงานก็เป็นสไตล์ที่ฮิตในยุคนั้นอีกด้วย

ล็อบบี้

นอกจากจะเช็คอินกับพนักงานแล้ว คุณยังสามารถใช้แท็บเล็ตเช็คอินด้วยตัวเองอีกด้วย แท็บเล็ตรองรับหลายภาษาและใช้งานง่าย แถมคีย์การ์ดมีให้เลือกถึง 3 ลาย ชอบลายไหนเลือกได้เลย!

เช็คอิน

ส่วนขั้นตอนการเช็คเอาท์นั้นง่ายยิ่งกว่า แค่หย่อนคีย์การ์ดลงในกล่องคืน ไม่ต้องทำเอกสารอะไรเพิ่มเติมเลย

เช็คเอาท์

โรงแรมเปิดให้เช็คอินได้ตั้งแต่ตี 5 แต่จะรับคีย์การ์ดและเข้าห้องพักได้หลังบ่าย 3 นะคะ

สำหรับใครที่มาถึงก่อนเวลา สามารถพักผ่อนรอได้ที่บริเวณข้างๆล็อบบี้ ซึ่งตกแต่งตามสไตล์เรโทร มีผนังภาพขนาดใหญ่ 3 ด้าน เหมาะกับการถ่ายรูปเล่นฆ่าเวลาเลยทีเดียว ทางโรงแรมยังมีป้ายแนะนำมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ให้ด้วยนะ ใครชอบสไตล์เรโทรลองไปถ่ายภาพตามกันได้เลย! และแล้ว อย่าลืมกดติดตาม Instagram ของโรงแรมแล้วโชว์ให้พนักงานดูด้วยนะ คุณถึงจะได้รับสติ๊กเกอร์ออริจินัลลิมิเต็ดอิดิชั่นจากพนักงานอีกด้วย (จำนวนจำกัดนะคะ)

เลานจ์ล็อบบี้

นอกจากล็อบบี้แล้ว ชั้น 2 ยังมีโซนพักผ่อน “2nd ROOM”, โซนของใช้สำหรับเด็กและทารก “Kids & Baby Goods” และห้องอาหารสำหรับมื้อเช้าและมื้อค่ำ ซึ่งจะแนะนำรายละเอียดภายหลังนะ แอบกระซิบว่าตอนเช้า ผนังภาพ 3 ด้านในล็อบบี้จะถูกเปิดออก กลายเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ทานอาหารเช้าด้วยนะ!

สิ่งอำนวยความสะดวกชั้น 1

ลงมาที่ชั้น 1 จะเจอกับป้ายรถบัสรับส่งอยู่ตรงหน้าประตูเลย ออกไปขึ้นรถได้สะดวกมากๆเลย

ห้องฝากสัมภาระ

ถ้าต้องการฝากกระเป๋า ก็ตรงไปที่ห้องฝากสัมภาระอัตโนมัติที่ชั้น 1 ได้เลย เขาเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และมีล็อกเกอร์ขนาดต่างๆถึง 170 ตู้ ซึ่งคุณสามารถใช้งานได้ฟรีก่อนเช็คอินและหลังเช็คเอาท์ได้เลย ถึงแม้ว่าผู้เข้าพักจะมาถึงโรงแรมเช้ากว่าเวลาที่กำหนด ก็สามารถฝากกระเป๋าแล้วไปลุยดิสนีย์แลนด์ได้อย่างสบายใจทันที!

เครื่องซักผ้าและจุดชาร์จแบต

ชั้นนี้ยังมีร้านสะดวกซื้อ “LAWSON” เปิด 24 ชั่วโมงให้บริการ มีห้องซักผ้า และจุดเช่าพาวเวอร์แบงค์อีกด้วย แต่เครื่องซักผ้าไม่รับเงินสดนะ คุณต้องใช้บัตรเครดิตหรือการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น!

“2nd ROOM” พื้นที่พักผ่อนสุดชิลล์ที่ไม่อยากลุกไปไหน

โซนพักผ่อน “2nd ROOM”

ใครที่นั่งไฟลท์ดึกมาถึงญี่ปุ่นแต่เช้าตรู่ และมีเวลาเหลือเฟือก่อนเช็คอิน นอกจากโซนเลานจ์ข้างล็อบบี้แล้ว ยังมาจุดพักผ่อนที่ “2nd ROOM” ที่นี่เป็นพื้นที่เปิด 24 ชั่วโมง ให้ผู้เข้าพักทุกคนสามารถใช้งานได้อย่างอิสระ ตั้งแต่เวลาเปิดให้เช็คอิน (ตี 5) ไปจนถึงหลังเช็คเอาท์ (บ่าย 3)

ภาพรวม 2nd ROOM

นอกจากโซนโต๊ะเก้าอี้แล้ว ยังมีพื้นที่กึ่งส่วนตัวคล้ายๆ ห้องเล็กๆ ที่มีม่านกั้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอีกด้วย ก่อนเข้าห้องเล็กนี้อย่าลืมถอดรองเท้าด้วยนะคะ คุณสามารถเหยียดขาพักผ่อน จัดกระเป๋า หรือจะงีบหลับสักพักก็ยังได้ ให้ความรู้สึกเหมือนมี “ห้องที่สอง” เลยทีเดียว!

พื้นที่กึ่งส่วนตัว

นอกจากนี้ ตรงกลางของ “2nd ROOM” ยังมีพื้นที่กว้างขวางที่เต็มไปด้วยเบาะรองนั่ง ให้ทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆ ได้นั่งเล่นนอนเล่นกันอย่างสบายใจ หรือถ้าชอบความสงบ อยากพักผ่อนแบบชิลล์ๆ ก็เลือกนั่งในพื้นที่กึ่งส่วนตัวริมหน้าต่างได้ เปิดม่านออกไปก็จะเห็นวิวอ่าวโตเกียวสวยๆ เลยค่ะ

พื้นที่กึ่งส่วนตัวริมหน้าต่าง

โซนพักผ่อนนี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์เรโทรหลากหลายแบบ ลองสังเกตดีๆ จะเห็นว่าโต๊ะเก้าอี้แต่ละตัวมีดีไซน์และลวดลายไม่ซ้ำกันเลย ของตกแต่ง นิตยสาร และของประดับอื่นๆ ก็เป็นสไตล์อเมริกันปี 1955 ทั้งหมด พร้อมมีป้ายแนะนำของใช้สไตล์เรโทรเหล่านี้ด้วย ทุกคน สามารถเลือกที่นั่งตามที่ชอบ แล้วหามุมถ่ายรูปเก๋ๆ ได้ตามสบายเลย!

โต๊ะเก้าอี้และของตกแต่ง

นอกจากจะนั่งพักผ่อนหรือพูดคุยกันแล้ว ทุกมุมยังมีปลั๊กไฟติดตั้งไว้ให้ด้วย ใครอยากจะใช้โน้ตบุ๊กหรือมือถือเช็คข้อมูลเที่ยว หรือแม้แต่ทำงาน ก็ทำได้อย่างสบาย ไม่ต้องห่วง

ปลั๊กไฟ

ร้านค้าไร้พนักงาน “Food & Drink Station”

ถ้าเกิดหิวขึ้นมา ใน “2nd ROOM” ยังมีร้านค้าไร้พนักงาน “Food & Drink Station” เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงค่ะ ข้างในมีอาหารว่างและเครื่องดื่มหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อ ทั้งขนมปัง ขนมอบ ขนมขบเคี้ยว ที่เก็บในอุณหภูมิห้อง รวมถึงซุป โจ๊ก ราเม็ง อุด้ง แบบอุ่นร้อนพร้อมทาน ข้างๆ ยังมีภาชนะแบบใช้แล้วทิ้งเตรียมไว้ให้ด้วย สามารถซื้อแล้วมานั่งทานที่โซนพักผ่อนได้เลย

สินค้าหลายอย่างที่นี่เป็นของแบรนด์ท้องถิ่นจากญี่ปุ่น มีของน่าสนใจที่ไม่ค่อยเห็นตามท้องตลาดทั่วไป นอกจากจะซื้อทานตอนเข้าพักแล้ว ยังเหมาะจะซื้อเป็นของฝากกลับบ้านด้วยนะคะ

อาหารอุณหภูมิห้อง

โซนตู้แช่เย็นและแช่แข็งก็มีเครื่องดื่ม ไอศกรีม และของว่างต่างๆ เพียบ ทั้งชาข้าวบาร์เลย์ผสมขิง “moogy” จาก KIRIN, น้ำผลไม้ท้องถิ่นขึ้นชื่อจากวากายามะและยามากาตะ, กรีกโยเกิร์ตแบรนด์ “OIKOS” ที่ฮิตในหมู่สาวๆ ญี่ปุ่น และโดนัทกับขนมทานเล่นคู่กับชาอื่นๆ อีกมากมาย

โซนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากเบียร์กระป๋องและค็อกเทลรสชาติต่างๆ แล้ว ยังมีกับแกล้มอร่อยๆ วางเรียงราย รวมถึงตู้กดเบียร์สดและไวน์อีกด้วย! ใครอยากดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ ก็มีเครื่องชงกาแฟให้บริการด้วยนะ

เครื่องดื่ม

นอกจากอาหารแล้ว แน่นอนว่าต้องมีสินค้าลิมิเต็ดของ Hoshino Resorts และ 1955 Tokyo Bay ขายด้วย ที่เริ่ดไปกว่านั้นคือมีอุปกรณ์ที่อาจจำเป็นสำหรับไปเที่ยว ดิสนีย์แลนด์เช่น ร่ม เสื่อปิกนิก ขายด้วยนะ จะใส่ใจสุดๆ ไปเลยเกินไปแล้ว

สินค้าลิมิเต็ด

ร้านค้าไร้พนักงานนี้ต้องชำระเงินด้วยตัวเองนะคะ แค่ใช้เครื่องสแกนบาร์โค้ดบนสินค้าเพื่อคำนวณราคา และถ้าสินค้าชิ้นไหนไม่มีบาร์โค้ด ก็หยิบการ์ดสีดำข้างๆ มาสแกนแทนได้เลย

อยากอุ่นอาหาร? ข้างๆ มีเคาน์เตอร์ “SERVICE COUNTER” ที่มีไมโครเวฟ เตาอบ และตู้น้ำดื่มให้บริการ สามารถอุ่นอาหารที่เพิ่งซื้อมา หรือจะกดน้ำเย็น น้ำร้อนดื่มก็ได้ตามสบายเลย

เคาน์เตอร์บริการ

กิจกรรม “American Candy Party 1955”

พิเศษสุดๆ! ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2025 ทางโรงแรมมีจัดกิจกรรมธีม “American Candy Party 1955” ด้วยนะ! นอกจากจะมีการตกแต่งรถขนมหวานสุดอลังการแล้ว ที่ “Food & Drink Station” ยังมีรถเข็นพิเศษมาขายลูกอมโลลิป๊อป ช็อกโกแลต และเพรทเซลสไตล์อเมริกันด้วย อร่อยแถมถ่ายรูปสวย รับรองว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องกรี๊ดอย่างแน่นอน!

กิจกรรม American Candy Party 1955

เที่ยว ดิสนีย์แลนด์ แต่เช้ากลับดึก ก็ไม่ต้องกลัวอด!

ใครที่ตั้งใจจะไปตะลุย ดิสนีย์แลนด์ อย่างเต็มที่ แล้วกลัวว่าจะตื่นเช้ากลับดึกจนพลาดมื้ออาหารของโรงแรม ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ! เวลาให้บริการอาหารของ “1955 Tokyo Bay” เค้าคิดมาเพื่อนักท่องเที่ยวสายนี้โดยเฉพาะเลย!

Restaurant

ห้องอาหารเช้าอยู่ที่ “Restaurant” ข้างล็อบบี้ชั้น 2 เปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้าเลยค่ะ คุณสามารถทานอาหารเช้าอร่อยๆ เติมพลัง แล้วค่อยนั่งรถบัสไป ดิสนีย์แลนด์ ก็ยังทัน

ทางเข้าห้องอาหารเช้า

ถ้าจองห้องพักแบบรวมอาหารเช้า ตอนเช็คอินก็จะได้รับคูปองอาหารเช้ามาเลย แต่ถ้าไม่ได้จองแบบรวมอาหารเช้าไว้ ก็สามารถซื้อคูปองเพิ่มเติมที่หน้างานได้ค่ะ พอรับป้ายที่เขียนว่า “EATING” จากพนักงานแล้ว ก็ไปตักบุฟเฟต์ได้ตามใจชอบเลย ทานเสร็จแล้วก็แค่พลิกป้ายเป็นด้าน “FINISHED” พนักงานจะได้รู้ว่าเก็บโต๊ะได้แล้ว

ไลน์อาหารเช้า

บุฟเฟต์อาหารเช้ามีทั้งอาหารญี่ปุ่นและตะวันตกให้เลือกหลากหลาย ที่ฮิตสุดๆ ก็คือ แซนวิชรูเบน (Reuben Sandwich) ซึ่งเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของอเมริกาเลยค่ะ นั่งทานแซนวิชร้อนๆ ชมวิวทะเลสวยๆ นอกหน้าต่างไปด้วย ฟีลเหมือนทานอาหารเช้าสไตล์อเมริกันเลย!

■ เวลาให้บริการอาหารเช้า: 6:00 น. – 10:00 น. (Last Order 9:30 น.)

Cafeteria

สนุกสุดเหวี่ยงที่ ดิสนีย์แลนด์ จนถึงวินาทีสุดท้าย กลับมาถึงโรงแรมก็ไม่ต้องกลัวหิว นอกจากจะมี “LAWSON” และ “Food & Drink Station” ที่เปิด 24 ชั่วโมงแล้ว ยังมีห้องอาหารมื้อค่ำ “Cafeteria” ที่อยู่ชั้น 2 เช่นกัน

Cafeteria

ที่นี่เปิดให้บริการถึง 5 ทุ่ม (23:00 น.) สั่งอาหารง่ายๆ ด้วยเครื่องอัตโนมัติ เมนูมีทั้งราเม็ง ข้าวต้มชา (Ochazuke) ข้าวหน้าต่างๆ ที่ทานแล้วอิ่มท้องแน่นอน หรือถ้าอยากทานอะไรเบาๆที่เหมาะกับตอนกลางคืน ก็มีอาหารว่างกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้บริการด้วย คุณพ่อคุณแม่ที่มีน้องๆ มาด้วยก็ไม่ต้องห่วง ที่นี่มีเซ็ตอาหารสำหรับเด็ก เป็นเมนูเส้นขนาดเล็ก เสิร์ฟพร้อมแอปเปิ้ลแกะสลักรูปกระต่ายน่ารักๆ ด้วยนะ!

เมนูอาหารค่ำ

■ เวลาให้บริการอาหารค่ำ: 18:00 น. – 23:00 น. (Last Order 22:30 น.)

ห้องพักสุดสบายพร้อมวิวมหัศจรรย์!

“1955 Tokyo Bay by Hoshino Resorts” มีห้องพักทั้งหมด 638 ห้อง แบ่งเป็น 18 ประเภท ทั้งห้อง Standard, ห้อง Corner, ห้อง Superior และห้อง Superior Family รวมถึงห้องพักแบบที่มีเตียง GOROGORO การตกแต่งภายในใช้โทนสีจัดจ้านสไตล์เรโทร ให้ความรู้สึกถึงกลิ่นอายอเมริกันยุคเก่าได้อย่างเต็มที่

วิวจากห้องพัก

ครั้งนี้ผู้เขียนได้เข้าพักห้อง “Superior Room with GOROGORO Bed” พอเปิดม่านออกไปเท่านั้นแหละ! พบกับวิวทะเลเต็มๆ ตาเลย ตอนกลางคืนก็นั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ ได้จากในห้อง ส่วนตอนเช้าก็ตื่นมารับแสงแดดอุ่นๆ ที่สาดส่องเข้ามาในห้องได้เลย

นอกจากจะมีเตียงเดี่ยว 2 เตียงในห้องแล้ว ยังมีโซฟาเบดให้นอนกลิ้งเล่นได้อีก 2 เตียง โซฟานี้สามารถใช้เป็นเตียงนอนได้เลย ทำให้ห้องนี้พักได้สูงสุดถึง 4 คนค่ะท่าน แต่ถ้าจะนอนบนโซฟา ต้องปูเตียงเองนะ!

สิ่งอำนวยความสะดวกในห้อง

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องก็จัดเต็มไม่แพ้กัน กาต้มน้ำไฟฟ้าสแตนเลสดีไซน์เรโทรจาก “DeLonghi” และแก้วมัคเซรามิก 4 สี จาก “Smith” ทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศย้อนยุคตั้งแต่ก้าวเข้าห้องเลย อดทึ่งในความใส่ใจรายละเอียดของโรงแรมไม่ได้จริงๆ

ในห้องน้ำมีไดร์เป่าผมระดับโปรจากแบรนด์ซาลอนชื่อดังอย่าง “Nobby by TESCOM” ส่วนผลิตภัณฑ์อาบน้ำก็มีทั้งแชมพู ครีมนวด และสบู่อาบน้ำของ Hoshino Resorts เอง และยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสูตรอ่อนโยนจากแบรนด์ญี่ปุ่น “OSAJI” ทั้งคลีนซิ่ง โลชั่น และมอยส์เจอร์ไรซิ่งเจล ให้คุณได้ผ่อนคลายกับการอาบน้ำหลังจากสนุกสุดเหวี่ยงที่ดิสนีย์แลนด์มาทั้งวัน ชะล้างความเหนื่อยล้าได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ

ดีไซน์เป็นมิตรกับครอบครัว พาลูกเล็กเบบี๋มาพักก็สบายใจหายห่วง!

ถ้าคุณพาเด็กๆ มาเที่ยวด้วย ก็ไม่ต้องกังวลเลยนะคะ เพราะตั้งแต่เข้ามาใน “1955 Tokyo Bay” จะรู้เลยว่าที่นี่เป็นโรงแรมที่เป็นมิตรกับครอบครัวและเด็กเล็กมากๆ

Kids & Baby Goods

ที่โซน “Kids & Baby Goods” ชั้น 2 มีของใช้สำหรับเด็กและทารกให้ยืมฟรีเพียบ! ทั้งผ้าอ้อมสารพัดไซส์, ถังขยะสำหรับผ้าอ้อม, ทิชชู่เปียก, เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ รวมถึงแปรงสีฟัน สบู่ ชุดนอน และรองเท้าแตะสำหรับเด็กด้วย ถ้าต้องการเตรียมนมให้เด็กๆ ก็มีเครื่องเตรียมนมและอุปกรณ์ฆ่าเชื้อให้ใช้

นอกจากนี้ ยังสามารถยืมฝารองชักโครกสำหรับเด็ก เก้าอี้อาบน้ำ และที่วางเท้าสำหรับอ่างล้างหน้า เพื่อให้เด็กๆ ใช้ห้องน้ำในห้องพักได้สะดวกขึ้น แถมยังยืมนิทานภาพให้เด็กๆ อ่านเล่นฆ่าเวลาได้อีกด้วยนะ!

อุปกรณ์สำหรับเด็กในห้องอาหาร

นอกเหนือจากโซนของใช้เด็กชั้น 2 แล้ว ทุกชั้นของโรงแรมยังมีห้องบริการ (Service Room) ที่สามารถไปยืมรั้วกั้นเตียงและอ่างอาบน้ำเด็กได้อีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ร้านค้าและห้องอาหารในโรงแรมก็มีเมนูสำหรับเด็กหรืออาหารที่เหมาะกับทารกให้เลือก ในห้องอาหารก็มีภาชนะสำหรับเด็กและเก้าอี้เด็กที่ปรับระดับความสูงได้ เพื่อให้เด็กๆ นั่งทานอาหารได้อย่างสบาย บริการเหล่านี้ครบครันและใส่ใจสุดๆ ทำให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกเที่ยวได้แบบไม่ต้องแบกของพะรุงพะรังอีกต่อไป!

ตัวเลือกที่พักใหม่ล่าสุดสำหรับเที่ยว ดิสนีย์แลนด์ ห้ามพลาดเด็ดขาด!

ข้อมูลโรงแรม

■ ที่อยู่: 7 Chome-2-3 Hinode, Urayasu, Chiba 279-0013
■ โทรศัพท์: 050-3134-8096 (ศูนย์จอง Hoshino Resorts)
■ จำนวนห้องพัก: 638 ห้อง (อาคารสูง 18 ชั้น), เวลาเช็คอิน: 15:00 น. / เวลาเช็คเอาท์: 11:00 น.
■ สิ่งอำนวยความสะดวก: 2nd Room (พื้นที่ส่วนกลาง, Food & Drink Station), ห้องอาหาร (Cafeteria, Restaurant), ล็อกเกอร์ฝากของ, ห้องซักผ้า, ร้านสะดวกซื้อ
■ การเดินทาง: จากสถานี JR Keiyo Line “Shin-Urayasu” นั่งรถบัสประมาณ 15 นาที / จาก Tokyo Disney Resort นั่งรถบัสประมาณ 30 นาที (มีรถบัสรับส่งฟรี ไม่ต้องจองล่วงหน้า)
1955 Tokyo Bay by Hoshino Resorts
เว็บไซต์ Hoshino Resorts 

เราได้แนะนำ “1955 Tokyo Bay by Hoshino Resorts” ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางสุดหรู ห้องอาหาร และห้องพักกันไปแล้ว อยากจะแพ็คกระเป๋าไปลองเข้าพัก สัมผัสบริการสุดพิเศษและสะดวกสบายเหล่านี้กันเลยใช่มั้ยล่ะ? ครั้งต่อไปที่คุณ วางแผนไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ นอกจากโรงแรมในเครือ Disney Resort แล้ว ลองมาพักที่ “1955 Tokyo Bay” ดื่มด่ำกับโลกที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อรำลึกถึง ดิสนีย์แลนด์ แห่งแรกกันดูนะ!