10 ที่เที่ยวนากาโน่ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และจุดลับที่คุณไม่ควรพลาด!

| By Git house Git house

10 ที่เที่ยวนากาโน่ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และจุดลับที่คุณไม่ควรพลาด!

เมื่อพูดถึงการไปเที่ยวที่จังหวัดนากาโน่ หลายคนคงจะนึกถึง “คารุอิซาว่า” รีสอร์ทบนที่ราบสูงที่แสนจะหรูหราและสง่างามเป็นอันดับแรกเลยใช่ไหมคะ? ด้วยอากาศที่เย็นสบาย และตัวอาคารสไตล์ยุโรป อีกทั้งยังมีธรรมชาติที่อันอุดมสมบูรณ์ ทำให้คารุอิซาว่าไม่ได้เป็นเพียงสถานที่พักตากอากาศยอดนิยมอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาสัมผัสเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย แต่นากาโน่ไม่ได้มีดีแค่นั้นนะคะ! ตั้งแต่วัดเซ็นโคจิ, ปราสาทมัตสึโมโตะ, ปราสาทอุเอดะ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ไปจนถึงคามิโคจิและสระมิชากะอิเคะที่งดงามราวกับภาพวาด และหมู่บ้านอาชิที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวพร่างพราย ทุกแห่งล้วนมีทิวทัศน์และเรื่องราวที่ไม่เหมือนใครรอให้คุณไปค้นพบค่ะ

และในบทความนี้เราได้คัดสรร 10 สถานที่ที่ต้องไปเยือนในจังหวัดนากาโน่มาฝากกันค่ะ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายรักธรรมชาติ, ประวัติศาสตร์, หรือแค่อยากจะหาที่พักผ่อนหย่อนใจที่งียบสงบ รับรองว่าคุณจะได้พบกับการเดินทางที่สมบูรณ์แบบในแบบของคุณที่นี่อย่างแน่นอนค่ะ

จองกิจกรรมในนากาโน่

1. วัดเซ็นโคจิ

“วัดเซ็นโคจิ” เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,400 ปี สร้างขึ้นก่อนที่ศาสนาพุทธในญี่ปุ่นจะแบ่งแยกเป็นนิกายต่างๆ จึงเป็นวัดอิสระที่ไม่มีสังกัดนิกายใดเป็นพิเศษ ซึ่งหาได้ยากมากในญี่ปุ่นค่ะ และในแต่ละปี จะมีผู้คนมาสักการะถึง 6 ล้านคน และยังคงเป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งในสมัยเอโดะถึงกับมีคำกล่าวที่ว่า “ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาสักการะที่วัดเซ็นโคจิให้ได้” ทำให้มีผู้คนจากทั่วประเทศเดินทางมาที่นี่อย่างไม่ขาดสายเลยค่ะ

วัดเซ็นโคจิแหล่งที่มาของภาพ
ภายในบริเวณวัดมีสถานที่น่าสนใจมากมาย ทั้งประตูซันมงและหอพระไตรปิฎก (เคียวโซ) ที่เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญ รวมถึงหอระฆังที่มีมุงหลังคาทำจากเปลือกไม้สนฮิโนกิ ทุกมุมล้วนน่าชมทั้งสิ้น

วัดเซ็นโคจิแหล่งที่มาของภาพ

ส่วนอุโบสถหลักของวัด สร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า “ชูโมคุซึคุริ” ซึ่งเป็นอาคารพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกของญี่ปุ่น และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติด้วยนะคะ

อุโบสถหลักวัดเซ็นโคจิแหล่งที่มาของภาพ

วัดเซ็นโคจิไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์และความเชื่อของญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผสมผสานความงามของสถาปัตยกรรมโบราณเข้ากับความศรัทธาของชาวบ้านได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะมาเพื่อขอพร สัมผัสบรรยากาศทางประวัติศาสตร์ หรือเพียงเพื่อความสงบทางใจ วัดเซ็นโคจิก็จะเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

■ ที่อยู่: 長野県長野市長野元善町491-イ
■ เวลาทำการ:
อุโบสถหลัก: เปิดก่อนเวลาทำวัตรเช้า 1 ชั่วโมง ถึง 16:00-16:30 น. (แตกต่างกันไปในแต่ละเดือน)
ประตูซันมง・หอพระไตรปิฎก・พิพิธภัณฑ์: 9:00 – 16:00 น.
■ ค่าเข้าชม:
ตั๋วชุด: ผู้ใหญ่ 1,200 เยน, นักเรียนม.ปลาย 400 เยน, นักเรียนม.ต้น-ประถม 100 เยน, เด็กเล็กฟรี
อุโบสถหลักและทางเดินใต้ดิน (ไคดันเมกุริ): ผู้ใหญ่ 600 เยน, นักเรียนม.ปลาย 200 เยน, นักเรียนม.ต้น-ประถม 50 เยน, เด็กเล็กฟรี
ประตูซันมง: ผู้ใหญ่ 600 เยน, นักเรียนม.ปลาย 200 เยน, นักเรียนม.ต้น-ประถม 50 เยน, เด็กเล็กฟรี
หอพระไตรปิฎก: ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนม.ปลาย 100 เยน, นักเรียนม.ต้น-ประถม 50 เยน, เด็กเล็กฟรี
เว็บไซต์ทางการ

2. ศาลเจ้าโทกาคุชิ

ศาลเจ้าโทกาคุชิเป็นที่สถิตของเทพเจ้าผู้มีบทบาทสำคัญในตำนาน “การเปิดประตูถ้ำสวรรค์อามาโนะอิวาโตะ” และเป็นที่รู้จักในฐานะสถานฝึกตนของนักบวชชูเก็นโดมาตั้งแต่ปลายยุคเฮอัน ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในพาวเวอร์สปอตชื่อดังของญี่ปุ่นค่ะ ที่จริงแล้ว “ศาลเจ้าโทงาคุชิ” เป็นชื่อเรียกรวมของศาลเจ้า 5 แห่ง ได้แก่ โอคุฉะ, จูฉะ, โฮโคฉะ, คุซึริวฉะ และฮิโนมิโกะฉะ โดยโอคุฉะจะเป็นศาลเจ้าหลัก ซึ่งต้องเดินผ่านประตูซุยจินมงสีแดงชาด และป่าสนซีดาร์อายุกว่า 400 ปีไปตามเส้นทางขึ้นเขาโทงาคุชิ ส่วนจูฉะก็มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อายุกว่า 700 ปีอีกด้วย ให้บรรยากาศที่ขลังและศักดิ์สิทธิ์มากค่ะ

ศาลเจ้าโทงาคุชิแหล่งที่มาของภาพ

นอกจากนี้ บริเวณรอบศาลเจ้ายังเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของ “โทกาคุชิโซบะ” อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ ซึ่งแต่ละร้านก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งในเรื่องการเลือกแป้ง วิธีทำเส้น และรสชาติของน้ำจิ้ม ในทุกฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่จะมีการจัดเทศกาล “ชินโซบะเคนโนไซ” เพื่อถวายโซบะที่เก็บเกี่ยวใหม่แด่เทพเจ้าแห่งโทกาคุชิ เพื่อเป็นการขอบคุณต่อผืนดินอีกด้วย และยังมีการจัดกิจกรรม “ฮันซารุ ทาเบะอารุกิ” (半ざる食べ歩き) ให้นักท่องเที่ยวได้ชิมโซบะขนาดครึ่งชามตามร้านดังต่างๆ ด้วยค่ะ

โทงาคุชิโซบะแหล่งที่มาของภาพ

ในดินแดนที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและความเชื่อแห่งนี้ ลองมาเพลิดเพลินไปกับการเดินทางสายกินในฤดูใบไม้ร่วงกันดูนะคะ

■ ที่อยู่: 長野県長野市戸隠中社3506
■ เวลาทำการ: 9:00 – 17:00 น.
■ ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี
เว็บไซต์ทางการ

3. ปราสาทมัตสึโมโตะ

“ปราสาทมัตสึโมโตะ” สร้างขึ้นในยุคเซ็นโกคุ เป็นหนึ่งในปราสาท 5 ชั้น 6 คูหาที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในญี่ปุ่น และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติอีกด้วย และโครงสร้างภายในยังคงสภาพเดิมเหมือนในอดีต แสดงให้เห็นถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างสูง ในฐานะที่เป็นหนึ่งใน 12 ปราสาทที่ยังคงสภาพที่สมบูรณ์และเป็นหนึ่งใน 5 ปราสาทที่เป็นสมบัติของชาติ ปราสาทมัตสึโมโตะจึงถือเป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่นเลยค่ะ

ปราสาทมัตสึโมโตะแหล่งที่มาของภาพ

ตัวปราสาทมีสีดำสลับขาวที่ดูยิ่งใหญ่สง่างามตัดกับเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือเป็นฉากหลัง เกิดเป็นทิวทัศน์ที่งดงามอลังการ ทำให้ที่นี่กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองมัตสึโมโตะ นอกจากนี้ ปราสาทมัตสึโมโตะยังมีการจัดกิจกรรมและเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครในแต่ละฤดูกาล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมอย่างมากค่ะ

ปราสาทมัตสึโมโตะ

แหล่งที่มาของภาพ

■ ที่อยู่: 長野県松本市丸の内4-1
■ เวลาทำการ: 8:30 – 17:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 16:30 น.)
■ ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 1300 เยน, นักเรียนม.ต้น-ประถม 400 เยน
เว็บไซต์ทางการ

4. ปราสาทอูเอดะ

“ปราสาทอูเอดะ” สร้างขึ้นโดยซานาดะ มาซายูกิ ในยุคอาซูจิ-โมโมยามะ และมีชื่อเสียงในฐานะ “ปราสาทที่ตีไม่แตก” จากการที่สามารถต้านทานกองทัพของโทคุงาวะ ฮิเดทาดะ ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังสมรภูมิเซกิงาฮาระได้สำเร็จ ทำให้เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคเซ็นโกคุ และในปัจจุบันปราสาทอูเอดะได้ถูกพัฒนาให้เป็นสวนสาธารณะแล้ว ภายในสวนมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง “ศาลเจ้าซานาดะ” และ “พิพิธภัณฑ์เมืองอุเอดะ” ให้เราได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของตระกูลซานาดะและสัมผัสกับประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นได้อย่างลึกซึ้ง

ปราสาทอุเอดะแหล่งที่มาของภาพ

นอกจากนี้ทิวทัศน์ในสวนยังงดงามตลอดสี่ฤดู ไม่ว่าจะเป็นซากุระในฤดูใบไม้ผลิ, ความเขียวขจีในฤดูร้อน, หรือใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง พร้อมทั้งมีการจัดเทศกาลและกิจกรรมต่างๆ ตามฤดูกาล ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ไว้ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทศกาล “อูเอดะโจ เซ็นบงซากุระ” ที่ต้นซากุระกว่าพันต้นจะบานสะพรั่งรอบปราสาท และภาพซากุระที่ตัดกับหอคอยและกำแพงหิน หรือภาพสะท้อนบนผิวน้ำในคูเมือง จะเป็นภาพที่สวยงามจนแทบลืมหายใจเลยล่ะค่ะ

ซากุระที่ปราสาทอุเอดะแหล่งที่มาของภาพ

■ ที่อยู่: 長野県上田市二の丸
■ เวลาทำการ: เข้าชมได้อิสระ *ป้อมปราการทิศใต้, ทิศเหนือ และประตู สามารถเข้าชมได้เวลา 8:30 – 17:00 น.
■ ค่าเข้าชม: เข้าชมบริเวณปราสาทฟรี *ค่าเข้าชมป้อมปราการและประตู: ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนม.ปลายขึ้นไป 200 เยน, นักเรียนม.ต้น-ประถม 100 เยน
เว็บไซต์ทางการ

5. คามิโคจิ

“คามิโคจิ” ที่มีความสูงประมาณ 1,500 เมตร ตั้งอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดนากาโน่ และเป็นที่ราบสูงที่เกิดจากการทับถมตกตะกอน ที่นี่มีชื่อเสียงด้านทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามอลังการจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “สถานที่พิเศษทางทัศนียภาพ” และ “อนุสรณ์สถานทางธรรมชาติ” ของญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ และจุดถ่ายรูปยอดฮิตคือ “สะพานคัปปะ” แลนด์มาร์คของที่นี่ คุณสามารถมองเห็นเทือกเขาโฮทากะจากที่นี่ด้วยนะ  และยังเป็นที่ชื่นชอบของนักปีนเขาและนักเดินป่าเป็นอย่างมากด้วย

สะพานคัปปะ คามิโคจิแหล่งที่มาของภาพ

และในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวจะเป็นช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ป่าไม้เขียวขจีตัดกับท้องฟ้าสีครามสดใส แถมอากาศก็สดชื่นเย็นสบาย เหมาะสำหรับการเดินป่าและสำรวจธรรมชาติแบบชิลๆ และเส้นทางเดินก็ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี มือใหม่ก็เดินได้สบายๆ ค่ะ นอกจากสะพานคัปปะแล้ว ก็ยังมี “สระเมียวจิน” ที่ถือเป็นพาวเวอร์สปอต และ “สระไทโช” ที่มีทิวทัศน์สวยงามราวกับความฝัน ที่นี่ยังเป็นสถานที่ตากอากาศยอดนิยมที่ดึงดูดผู้คนราว 1.5 ล้านคนต่อปีให้มาพักผ่อนและชมวิวนะคะ ถือเป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ วัฒนธรรม และการพักผ่อนอย่างแท้จริงค่ะ

สระเมียวจิน คามิโคจิแหล่งที่มาของภาพ

■ ที่อยู่: 長野県南安曇郡安曇村上高地
■ เวลาทำการ: เข้าชมได้อิสระ
■ ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี
เว็บไซต์ทางการ

6. คารุอิซาว่า

คารุอิซาว่าเป็นรีสอร์ทบนที่ราบสูงที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น เดิมทีถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พักตากอากาศสำหรับชาวต่างชาติ และยังคงรักษาบรรยากาศที่หรูหราและสง่างามไว้จนถึงทุกวันนี้ และในฤดูร้อนจะมีอากาศที่เย็นสบาย ทำให้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับการพักร้อน ส่วนในฤดูหนาวก็สามารถเพลิดเพลินกับการเล่นสกี, การประดับไฟ และคอนเสิร์ตในงาน “Winter Festival” ทำให้มีเสน่ห์แตกต่างกันไปในทุกฤดู และบนถนนคิวคารุอิซาว่ากินซ่าเต็มไปด้วยร้านค้าเก่าแก่และร้านค้าสุดเก๋ ทำให้เป็นถนนสายโปรดของเหล่านักท่องเที่ยวและเจ้าของบ้านพักตากอากาศเลยค่ะ

คารุอิซาว่าแหล่งที่มาของภาพ

สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง “สระคุโมบะ” ก็มีทิวทัศน์ที่งดงามตลอดสี่ฤดู, “น้ำตกชิราอิโตะ” ก็งดงามราวกับความฝัน, ส่วน “โบสถ์ที่ราบสูงคารุอิซาว่า” ก็ดึงดูดคู่รักนับไม่ถ้วนด้วยงาน Candle Night ในฤดูร้อนและฤดูหนาว ส่วนใครที่เป็นสายช้อป แค่เดิน 3 นาทีจากสถานีคารุอิซาว่าก็จะเจอกับ “Karuizawa Prince Shopping Plaza” เอ้าท์เล็ทกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ที่นั่นมีร้านค้ากว่า 200 ร้าน! ส่วนคนรักธรรมชาติก็ต้องไปที่ “Harunire Terrace” ที่ล้อมรอบด้วยต้นเอล์มกว่าร้อยต้น ให้คุณได้เพลิดเพลินกับอาหารและออนเซ็นท่ามกลางความเขียวขจี ไม่ว่าจะท่องเที่ยว, ช้อปปิ้ง, อาหาร, วัฒนธรรม หรือธรรมชาติ คารุอิซาว่าคงจะตอบโจทย์ทุกจินตนาการของวันหยุดพักผ่อนในอุดมคติได้ทั้งหมดเลยค่ะ

น้ำตกชิราอิโตะ คารุอิซาว่าแหล่งที่มาของภาพ

โบสถ์ที่ราบสูงคารุอิซาว่าแหล่งที่มาของภาพ

■ ที่อยู่: 長野県北佐久郡軽井沢町
■ เวลาทำการ: แตกต่างกันไปตามแต่ละสถานที่
■ ค่าเข้าชม: แตกต่างกันไปตามแต่ละสถานที่
เว็บไซต์ทางการ

7. ทะเลสาบสุวะ

ทะเลสาบสุวะตั้งอยู่ในจังหวัดนากาโน่ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชินชู ครอบคลุมพื้นที่ทั้งเมืองโอคายะ, เมืองสุวะ และเมืองชิโมะสุวะ และทะเลสาบที่กว้างใหญ่และเงียบสงบแห่งนี้มีทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู เหมาะสำหรับการเดินเล่น, วิ่งจ๊อกกิ้ง หรือจะนั่งเรือชมวิวอันกว้างไกลจากบนผิวน้ำก็ได้เช่นกัน ด้วยที่ตั้งที่อยู่บนรอยเลื่อนสำคัญของโลกอย่าง “แนวรอยเลื่อนอิโตอิกาวะ-ชิซูโอกะ” ทำให้ที่นี่ถูกมองว่าเป็นพาวเวอร์สปอตที่เต็มไปด้วยพลังงาน และในฤดูหนาว หากเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาได้ยากอย่าง “โอมิวาตาริ” แผ่นน้ำแข็งที่นูนขึ้นมาเป็นรอยแตก คนที่นี่จะเชื่อกันว่าเป็นรอยเท้าของเทพเจ้าที่ข้ามทะเลสาบ เป็นภาพที่ลึกลับและศักดิ์สิทธิ์มากๆเลย และที่สำคัญ ทิวทัศน์ของที่นี่ยังคล้ายกับ “ทะเลสาบอิโตโมริ” ที่ปรากฏในอนิเมะชื่อดัง ‘Your Name’ (หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ) ทำให้ทะเลสาบสุวะกลายเป็นจุดหมายยอดฮิตของแฟนๆ อนิเมะที่ต้องมาตามรอยกันเลยทีเดียว

ทะเลสาบสุวะแหล่งที่มาของภาพ

สวนสาธารณะทาเทอิชิที่อยู่ริมทะเลสาบก็เป็นจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน แนะนำให้มาในช่วงเช้าตรู่หรือพลบค่ำ จะได้เห็นภาพทะเลสาบและภูเขาที่สวยงามราวกับความฝัน นอกจากนี้ รอบๆ ทะเลสาบยังมีโรงแรมและเรียวกังออนเซ็นมากมาย ถือเป็นสถานที่พักผ่อนที่ผสมผสานธรรมชาติ วัฒนธรรม และการบำบัดได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นแฟนหนังหรือนักท่องเที่ยวทั่วไป ก็จะรู้สึกเติมเต็มหัวใจได้ที่นี่ค่ะ

สวนสาธารณะทาเทอิชิแหล่งที่มาของภาพ

■ ที่อยู่: 長野県諏訪市諏訪湖畔
■ เวลาทำการ: แตกต่างกันไปตามแต่ละสถานที่
■ ค่าเข้าชม: แตกต่างกันไปตามแต่ละสถานที่
เว็บไซต์ทางการ

8. สระมิซากะอิเคะ

“สระมิซากะอิเคะ” (Mishaka Pond) เดิมทีเป็นสระเก็บน้ำเพื่อการเกษตร แต่กลับกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเพราะผิวน้ำที่สะท้อนภาพป่าไม้ราวกับกระจกเงา ด้วยความที่น้ำนิ่งและใสราวคริสตัล จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “กระจกเงาแห่งธรรมชาติ” และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานชิ้นเอก “เสียงสะท้อนสีเขียว” (Midorihibiku) ของจิตรกรชื่อดัง ฮิงาชิยามะ คาอิอิ และยังโด่งดังจากโฆษณาทีวีอีกด้วยค่ะ ที่นี่มีทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู โดยเฉพาะเดือนมิถุนายนที่จะเขียวขจีที่สุด ภาพต้นไม้หนาทึบที่สะท้อนลงบนผิวน้ำสีเขียวเข้ม กลายเป็นภาพที่สวยงามราวกับผ่านการแต่งภาพมาเลยค่ะ ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงก็จะเป็นอีกบรรยากาศหนึ่งที่สวยงามราวกับภาพวาดสีทอง แนะนำให้มาในช่วงเช้าตรู่ที่แสงแดดอ่อนๆ และคนยังน้อย ผิวน้ำจะยิ่งดูบริสุทธิ์และเงียบสงบค่ะ

สระมิชากะอิเคะแหล่งที่มาของภาพ

รอบสระถูกโอบล้อมด้วยป่าที่เงียบสงบ บรรยากาศโดยรวมลึกลับและน่าค้นหา ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและอยากจะเดินช้าลงโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าคุณจะต้องการเยียวยาจิตใจ, เติมพลัง หรือตามหาสถานที่ลับๆก็ตาม สระมิซากะอิเคะก็เป็นสถานที่ที่งดงามจนไม่ควรพลาดค่ะ

สระมิชากะอิเคะในฤดูใบไม้ร่วงแหล่งที่มาของภาพ

■ ที่อยู่: 長野県茅野市奥蓼科
■ เวลาทำการ: เข้าชมได้อิสระ
■ ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี
เว็บไซต์ทางการ

9. นาขั้นบันไดชินชูอินากุระ

นาขั้นบันไดชินชูอินากุระเป็นหนึ่งใน “100 สุดยอดนาขั้นบันไดของญี่ปุ่น” และนาขั้นบันไดขนาดเล็กใหญ่ที่เรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ ทอดยาวไปตามเชิงเขาและหุบเขา และมีทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล แสดงให้เห็นถึงความงามที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างธรรมชาติและฝีมือมนุษย์ หลังจากได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยสุดยอดนาขั้นบันไดแล้ว ก็ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอนุรักษ์ขึ้นเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง นอกจากจะได้ชมวิวสวยๆ แล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ เช่น การประดับไฟในนาขั้นบันได, ประสบการณ์แคมป์ปิ้ง ซึ่งดึงดูดครอบครัวและนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเข้าร่วมค่ะ

นอกจากนี้นักท่องเที่ยวจากต่างถิ่นยังสามารถเข้าร่วมการทำนาและเก็บเกี่ยวผ่าน “ระบบเจ้าของนาข้าวขั้นบันได” (棚田米オーナー制度) ได้อีกด้วย ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสชีวิตในชนบท แต่ยังได้เก็บเกี่ยวข้าวของตัวเอง ถือเป็นประสบการณ์ที่ผสมผสานธรรมชาติ, วัฒนธรรม และการแลกเปลี่ยนที่หาได้ยากค่ะ

นาขั้นบันไดชินชูอินาคุระแหล่งที่มาของภาพ

■ ที่อยู่: 長野県上田市殿城2889-1(稲倉の里農村交流館)
■ เวลาทำการ: เข้าชมได้อิสระ
■ ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี
เว็บไซต์ทางการ

10. หมู่บ้านแห่งดวงดาวอาจิ

หมู่บ้านอาจิในจังหวัดนากาโน่เคยได้รับการจัดอันดับจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่นให้เป็น “สถานที่ที่ดาวส่องแสงสว่างที่สุดในประเทศ”! ทางท้องถิ่นจึงได้ริเริ่มโครงการ “Star Village Achi” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชมดาวค่ะ และในช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้ากอนโดล่าขึ้นไปยังที่ราบสูงฟูจิมิไดที่มีความสูงประมาณ 1,400 เมตร เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมชมดาวยามค่ำคืน คุณจะได้นอนดูดาวเต็มท้องฟ้าบนที่ราบสูงที่ไม่มีแสงไฟรบกวน และสัมผัสความยิ่งใหญ่และความเงียบสงบของธรรมชาติโดยตรง

นอกจากการชมดาวแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมที่ผสมผสานดนตรี, แสงสี และโปรเจคชั่นแมพปิ้งเพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าดื่มด่ำ เช่น คอนเสิร์ตใต้แสงดาวหรืองานแสดงแสงสีเสียงต่างๆ สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกเหมือนฝัน เหมาะสำหรับคู่รัก, ครอบครัว และผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่งค่ะ

หมู่บ้านอาชิ

แหล่งที่มาของภาพ

■ ที่อยู่: 長野県下伊那郡阿智村智里3731-4
■ เวลาทำการ: ขึ้นอยู่กับกิจกรรม
■ ค่าเข้าชม: ขึ้นอยู่กับกิจกรรม
เว็บไซต์ทางการ

จากความขลังและสง่างามของวัดเซ็นโคจิ, ความยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ของสองปราสาทมัตสึโมโตะและอูเอดะ, ไปจนถึงทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามของคามิโคจิและสระมิซากะอิเคะ และท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวของหมู่บ้านอาจิ จังหวัดนากาโน่ได้แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ที่เหมาะแก่การมาเยือน ด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายและทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม นอกจากคารุอิซาว่ารีสอร์ทชื่อดังแล้ว นากาโน่ยังมีทิวทัศน์และสถานที่ลับๆ ที่ทำให้คุณอยากกลับมาเยือนครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นในป่า, ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น หรือดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์และธรรมชาติ ทุกครั้งที่มาเยือนคุณจะได้รับความประทับใจใหม่ๆ กลับไป

ครั้งต่อไปที่วางแผนการเดินทาง อย่าลืมเพิ่มชินชูเข้าไปในแผนการเดินทางของคุณด้วยนะ และเริ่มต้นการเดินทางในอุดมคติที่เติมเต็มทั้งร่างกายและจิตใจกันนะคะ

จองกิจกรรมในนากาโน่