หมดปัญหาเรื่องหาบ้านในญี่ปุ่น! แนะนำ แพลตฟอร์ม Share House สุดปังสำหรับคนต่างชาติ
Catalog
สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังจะไปเรียนต่อ ทำงาน หรือไปแที่ญี่ปุ่น ปัญหาใหญ่ที่เจอกันบ่อยที่สุดคงเป็น “การหาบ้านเช่า” ใช่ไหมคะ? สำหรับชาวต่างชาติอย่างเรา การเช่าบ้านในญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ เพราะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน ไหนจะต้องมีคนค้ำประกันอีก ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับหลายๆ คนเลยทีเดียวค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะมีทางเลือกดีๆ อย่าง Share House ที่มีสัญญาเช่าที่มีความยืดหยุ่น ค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่า แถมยังมีบ้านที่เปิดรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะด้วย บทความนี้จะมาแนะนำ 4 แพลตฟอร์มสำหรับหา Share House ในญี่ปุ่น พร้อมบอกรายละเอียดเด่นๆ ที่เหมาะกับชาวต่างชาติ ภาษาที่เว็บไซต์รองรับ และความหลากหลายของบ้านพัก เพื่อช่วยให้ก้าวแรกในญี่ปุ่นของเพื่อนๆ เป็นไปอย่างราบรื่นและสบายใจหายห่วงค่ะ
Share House คืออะไรกันนะ?

Share House (シェアハウス) หรือที่เรียกว่า “บ้านพักรวม” เป็นรูปแบบการอยู่อาศัยที่หลายคนอยู่ร่วมกันในบ้านหลังเดียวค่ะ โดยผู้พักอาศัยแต่ละคนจะมีห้องนอนส่วนตัวเป็นของตัวเอง แต่จะใช้พื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำร่วมกัน ข้อดีคือ Share House ส่วนใหญ่มักจะมีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐานเตรียมไว้ให้ครบแล้ว ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอินเทอร์เน็ตก็มักจะคิดเป็นราคาคงที่ แถมค่าใช้จ่ายเริ่มต้นในการเช้าก็น้อยกว่าการเช่าอพาร์ตเมนต์ทั่วไปในญี่ปุ่น จึงเป็นที่นิยมในหมู่เยาวชนและชาวต่างชาติเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มี Share House ที่มีคอนเซ็ปต์และธีมเฉพาะตัวเกิดขึ้นมากมายเลยค่ะ นอกจากบ้านที่เน้น “การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับชาวต่างชาติ” หรือ “บ้านสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ” ที่เราเห็นกันบ่อยๆ แล้ว ยังมีบ้านพักที่มีธีมตามความสนใจเฉพาะทางอีกด้วย เช่น ห้องที่มี “ผนังเก็บเสียง” สำหรับคนรักดนตรี หรือบ้านที่มี “โรงภาพยนตร์” ส่วนตัว เรียกได้ว่ามีตัวเลือกที่หลากหลายและน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เลยค่ะ
ข้อดีและข้อเสียของ Share House

ข้อดี
- ค่าเช่าสบายกระเป๋า: ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนโตตอนแรกเข้า แถมยังมีคนช่วยหารค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอินเทอร์เน็ตอีกด้วย
- เฟอร์นิเจอร์ครบถ้วน: Share House ส่วนใหญ่มีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐานให้พร้อม ไม่ต้องเสียเงินซื้อของเข้าบ้านใหม่ แค่ลากกระเป๋าใบเดียวก็เข้าอยู่ได้เลย!
- สัญญาเช่ายืดหยุ่น: โดยปกติแล้วสามารถทำสัญญาเช่าระยะสั้นได้ เหมาะสำหรับคนที่มาเวิร์คแอนด์ทราเวลหรือเรียนภาษาระยะสั้น
- โอกาสในการสร้างเพื่อนใหม่: เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้พบปะและใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนๆ จากหลากหลายประเทศ ทำให้ได้ฝึกภาษาญี่ปุ่นและได้เพื่อนใหม่ๆ กลับมาเพียบเลยค่ะ
- ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน: นี่เป็นข้อดีที่สำคัญมากสำหรับชาวต่างชาติ เพราะ Share House ส่วนใหญ่ไม่ต้องการคนค้ำประกัน ทำให้ขั้นตอนการเข้าอยู่ง่ายขึ้นมากค่ะ
ข้อเสีย
- ความเป็นส่วนตัวน้อย: เนื่องจากต้องใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกับผู้อื่น หากมีนิสัยที่แตกต่างกันมาก อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้าหากันพอสมควร
- คุณภาพที่พักแตกต่างกัน: ความสะอาดและการบำรุงรักษาจะขึ้นอยู่กับบริษัทที่บริหารจัดการ Share House นั้นๆ บางที่อาจจะดีมาก แต่บางที่ก็อาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด
- มีกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตาม: Share House บางแห่งมีกฎระเบียบการอยู่อาศัยที่ชัดเจน เช่น ห้ามพาบุคคลภายนอกเข้าที่พัก หรือมีกำหนดเวลาในการใช้ห้องน้ำ
แนะนำแพลตฟอร์มสำหรับหา Share House
1. TOKYO SHAREHOUSE (東京シェアハウス)

ถ้าใครตั้งใจจะหาที่พักในโตเกียวโดยเฉพาะ ขอแนะนำ TOKYO SHAREHOUSE เลยค่ะ แพลตฟอร์มนี้มีบ้านพักในโตเกียวให้เลือกเยอะมากๆ หน้าตาเว็บไซต์ก็ใช้งานง่าย สามารถตั้งค่าการค้นหาได้ละเอียด ทั้งตามราคาค่าเช่า เงื่อนไขการเข้าพัก หรือแม้กระทั่งข้อมูลของผู้พักอาศัยปัจจุบัน ถ้าเจอที่พักที่ถูกใจ ยังสามารถเข้าไปดูบล็อกหรือวิดีโอ YouTube ของทางแพลตฟอร์มเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้อีกด้วย แถมบางแห่งยังมีภาพ VR ให้ดูแบบ 360 องศาเลย! แต่ต้องบอกก่อนว่า TOKYO SHAREHOUSE ไม่ใช่บริษัทที่บริหารบ้านพักโดยตรงนะคะ แต่เป็นเหมือนแพลตฟอร์มลงประกาศ (คล้ายๆ กับเว็บ SUUMO ของญี่ปุ่น หรือ 591 ของไต้หวัน) ดังนั้นหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือสมัครเข้าอยู่ จะต้องติดต่อกับบริษัทนายหน้าที่เป็นผู้ดูแลบ้านนั้นๆ โดยตรงค่ะ
2. Hitsuji Fudosan (ひつじ不動産)

Hitsuji Fudosan มีบ้านพักครอบคลุมทั่วญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่ในโตเกียว แต่ยังมีทั้งในแถบคันไซ ฮอกไกโด และคิวชูด้วยค่ะ และจุดเด่นของเว็บไซต์นี้คือ รูปภาพบ้านพักทั้งหมดถ่ายโดยทีมงานของ Hitsuji Fudosan ที่เข้าไปเยี่ยมชมสถานที่จริง ทำให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือสูงมาก รูปภาพก็มีให้ดูเยอะกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ทำให้เราเห็นภาพรวมของห้องจริงๆ ได้เลย บ้านพักบนแพลตฟอร์มนี้อาจจะมีราคาสูงนิดหน่อย ไม่ค่อยมีแบบราคาถูกๆ แต่ก็แลกมากับที่พักที่สวยงามและมีสไตล์ให้เลือกมากมาย เช่นเดียวกับ TOKYO SHAREHOUSE เว็บไซต์นี้เป็นเพียงแพลตฟอร์มลงประกาศ ดังนั้นการติดต่อในขั้นตอนต่อไปจะเป็นหน้าที่ของบริษัทที่บริหารบ้านโดยตรงค่ะ
3. OAKHOUSE (オークハウス)

OAKHOUSE มี Share House จำนวนมากกระจายอยู่ทั่วญี่ปุ่น โดยเฉพาะในโตเกียวจะมีเยอะเป็นพิเศษ และส่วนใหญ่มักจะตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟด้วยค่ะ บ้านพักทั้งหมดบริหารจัดการโดยบริษัทโดยตรง ทำให้ข้อมูลอัปเดตอย่างรวดเร็ว และเว็บไซต์ยังรองรับหลายภาษา (ญี่ปุ่น อังกฤษ จีน เกาหลี และฝรั่งเศส) ทำให้ใช้งานง่ายสำหรับชาวต่างชาติ OAKHOUSE มักจะมีโปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ อยู่เสมอ เช่น ส่วนลดสำหรับนักเรียน หรือโปรแกรมแนะนำเพื่อน แถมยังมีระบบสมาชิกที่ทำให้ค่าเช่าถูกลงไปอีกด้วยนะคะ นอกจากนี้ OAKHOUSE ยังจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้บาร์บีคิว ชวนเล่นบอร์ดเกม หรือปาร์ตี้ต่างๆ สำหรับใครที่เป็นสายโซเชียล ชอบพบปะผู้คนใหม่ๆ การเลือกพักกับ OAKHOUSE น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีแน่นอนค่ะ!
4. BORDERLESS HOUSE (ボーダレスハウス)

BORDERLESS HOUSE เน้น “การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ” โดยจะพยายามรักษาสัดส่วนของผู้พักอาศัยชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นไว้ที่ประมาณ 50:50 เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาและความเข้าใจในวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ดังนั้น BORDERLESS HOUSE จึงมักจะจัดกิจกรรมมากมาย เช่น กิจกรรมแลกเปลี่ยนภาษา ปาร์ตี้ หรือแม้กระทั่งทริปท่องเที่ยวเล็กๆ สำหรับบ้านพักในญี่ปุ่นจะเน้นที่ 3 พื้นที่หลักๆ คือ โตเกียว แถบคันไซ และเซนได นอกจากนี้ยังมี Share House ในเกาหลีและไต้หวันด้วยนะคะ เว็บไซต์ของ BORDERLESS HOUSE ยังรองรับการชมบ้านผ่านออนไลน์ โดยเจ้าหน้าที่จะนัดให้คำปรึกษาออนไลน์ผ่าน Zoom ไปพร้อมๆ กันด้วยค่ะ อย่างไรก็ตาม ค่าเช่าของที่นี่ค่อนข้างสูง และมีการจำกัดอายุผู้เข้าพักด้วย แนะนำให้ลองพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจนะคะ
เปรียบเทียบเว็บไซต์ Share House เลือกแพลตฟอร์มที่ใช่สำหรับคุณ!

สรุปจุดเด่นของแต่ละแพลตฟอร์มที่แนะนำในบทความนี้แบบสั้นๆ ให้เห็นภาพชัดๆ กันไปเลย!
- TOKYO SHAREHOUSE: เน้นบ้านพักในโตเกียว มีให้เลือกหลากหลายแบบ หน้าเว็บใช้งานง่ายและสะดวก
- Hitsuji Fudosan: รูปภาพน่าเชื่อถือเพราะทีมงานถ่ายเอง มีบ้านพักราคาสูงและมีสไตล์เยอะ แต่เว็บไซต์มีเฉพาะภาษาญี่ปุ่น
- OAKHOUSE: บริหารจัดการโดยตรง เว็บไซต์รองรับหลายภาษา มีโปรโมชั่นส่วนลดเยอะ และมีกิจกรรมสำหรับสายโซเชียลเพียบ
- BORDERLESS HOUSE: เน้นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ รองรับภาษาได้ดี บริหารจัดการโดยตรง แต่บ้านพักมีจำกัดและค่าเช่าค่อนข้างสูง
ส่วนตัวแอดเองเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยมากๆ และอยากจะเห็นรายละเอียดของพื้นที่ให้มากที่สุดก่อนตัดสินใจเข้าอยู่ เลยเคยมีประสบการณ์ใช้บริการแพลตฟอร์ม “Hitsuji Fudosan” ค่ะ แต่เพื่อนๆ รอบตัวของแอดก็เคยใช้บริการทั้ง 4 แพลตฟอร์มที่กล่าวมาข้างต้นกันมาแล้วทั้งนั้น ดังนั้น ขอแนะนำให้เพื่อนๆ ลองเลือกเว็บไซต์ Share House ที่เหมาะสมกับตัวเอง โดยพิจารณาจากวัตถุประสงค์ในการมาญี่ปุ่นและไลฟ์สไตล์ที่ชอบได้เลยค่ะ!