เที่ยวญี่ปุ่นเดือนตุลาคมแต่งตัวยังไงดี? รวมไอเดียแฟชั่น ในฉบับ 2025!

| By Git house Git house

เที่ยวญี่ปุ่นเดือนตุลาคมแต่งตัวยังไงดี? รวมไอเดียแฟชั่น ในฉบับ 2025!

Catalog

ในขณะที่ปี 2025 เริ่มนับถอยหลังเข้ามาทุกที ปีนี้เพื่อนๆ ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันมากี่ครั้งแล้วคะ? ญี่ปุ่นที่มี 4 ฤดูที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะไปเยือนฤดูไหน ก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ไม่เหมือนกันเลย และแต่ละท้องถิ่นก็มีวัฒนธรรมและอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ถ้าได้ไปร่วมเทศกาลท้องถิ่นพอดี ก็จะยิ่งได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ๆ เลย นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังเป็นสวรรค์ของนักช้อป ทั้งเครื่องสำอาง เสื้อผ้า ของฝากที่ออกมาใหม่เรื่อยๆ ทำให้ขาช้อปอยากจะซื้อแล้วซื้ออีกแบบไม่มีเบื่อเลยค่ะ

หากใครกำลังวางแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นเร็วๆ นี้ สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก่อนเดินทางก็คืออุณหภูมิของที่นั่น โดยเฉพาะอากาศของญี่ปุ่นในเดือนตุลาคม ซึ่งอุณหภูมิระหว่างช่วงเช้าและเย็นจะมีความแตกต่างกันมาก บางพื้นที่อาจจะหนาวเย็นกว่าอีกด้วย เช่นภูมิภาคคันโตและคันไซในเดือนตุลาคม อุณหภูมิในช่วงเช้าและเย็นจะค่อนข้างเย็น ส่วนภูมิภาคโทโฮคุจะมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า ดังนั้นหากเพื่อนๆ คิดจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในเดือนตุลาคมละก็ คุณไม่ควรพลาดบทความนี้เลย “ภูมิภาคคันโต คันไซ และโทโฮคุในเดือนตุลาคม 2025 ควรแต่งตัวยังไงกัน”! เราได้รวบรวมและวิเคราะห์อุณหภูมิของแต่ละพื้นที่ไว้อย่างละเอียด พร้อมไอเดียการมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าแฟชั่นยอดฮิตในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น ให้คุณแต่งตัวไปเที่ยวต่างประเทศได้แบบสวยๆ

เดือนตุลาคมที่ญี่ปุ่นแต่งตัวอย่างไร? วิเคราะห์สภาพอากาศแต่ละภูมิภาคก่อน

แฟชั่นเที่ยวญี่ปุ่นเดือนตุลาคม

แหล่งที่มาของภาพ

เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงในเดือนตุลาคม อากาศในญี่ปุ่นจะเย็นลงอย่างเห็นได้ชัดในทุกพื้นที่ การเลือกเสื้อผ้าจึงควรเน้นไปที่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นเป็นหลักค่ะ ตัวอย่างเช่น ภูมิภาคคันโตซึ่งเป็นที่ตั้งของโตเกียว ในเดือนตุลาคมอุณหภูมิในช่วงกลางวันจะอยู่ที่ประมาณ 18-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดอาจสูงถึง 20-25 องศา แต่อุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่ประมาณ 15-18 องศา เหมาะกับการสวมเสื้อคลุมบางๆ หรือเสื้อคาร์ดิแกนเพื่อเพิ่มความอบอุ่น ส่วนภูมิภาคคันไซอย่างโอซาก้าและเกียวโต จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งเดือนในช่วงเช้าและเย็นที่ประมาณ 14-23 องศา ซึ่งก็ยังคงต้องสวมเสื้อแขนยาวเช่นกันค่ะ

แต่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ ในภูมิภาคโทโฮคุอุณหภูมิในแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันไป หากจะเดินทางไปยังภูมิภาคโทโฮคุในเดือนตุลาคมอาจต้องลองเช็คอุณหภูมิของแต่ละพื้นที่ก่อน เช่น เมืองเซ็นไดอาจอยู่ที่ประมาณ 11-18 องศา, จังหวัดอาโอโมริประมาณ 8-18 องศา และจังหวัดอาคิตะประมาณ 9-18 องศา จึงจำเป็นต้องเตรียมตัวล่วงหน้าให้ดี เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าที่เตรียมไปรับมือกับอุณหภูมิของที่นั่นไม่ไหว ดังนั้นการพกเสื้อแจ็คเก็ตที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นได้ดีไปด้วย จะช่วยให้ลุคของคุณดูดีมีสไตล์และไม่พลาดแน่นอนค่ะ

ไอเดียแต่งตัวเที่ยวภูมิภาคคันโต 01: เสื้อกั๊กไหมพรม + เสื้อตัวใน + กางเกงสีกากี

แฟชั่นเที่ยวคันโต

แหล่งที่มาของภาพ

เนื่องจากสภาพอากาศในภูมิภาคคันโตช่วงเดือนตุลาคมโดยทั่วไปมีความชื้นต่ำ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้งตลอดทั้งวัน หากช่วงกลางวันอากาศเย็นสบายหน่อย ลองเลือกเสื้อแขนยาวเป็นตัวในแล้วสวมทับด้วยเสื้อกั๊กไหมพรม ส่วนท่อนล่างเลือกเป็นกางเกงขายาวสีกากีที่ให้ความรู้สึกของฤดูใบไม้ร่วง เพียงเท่านี้ก็สามารถสร้างลุคที่มีเลเยอร์น่าสนใจได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ขอแนะนำให้พกเสื้อคลุมบางๆ ติดตัวไว้สำหรับใส่ในช่วงเย็นด้วยนะ การแต่งตัวแบบนี้เหมาะกับการแต่งตัวไปเที่ยวมากๆ เลยค่ะ

ไอเดียแต่งตัวเที่ยวภูมิภาคคันโต 02: เสื้อเชิ้ตหนังกลับ + กางเกงผ้าคอตตอนทรงตรง

แฟชั่นเที่ยวคันโต

แหล่งที่มาของภาพ

ในช่วงต้นเดือนตุลาคม อากาศอาจจะยังไม่เย็นลงขนาดนั้น แต่ตั้งแต่กลางถึงปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นไป จะเริ่มรู้สึกถึงความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืนได้ชัดขึ้น ดังนั้นในช่วงนี้สามารถเลือกใส่เสื้อแขนยาวที่มีความหนาปานกลางเช่น เสื้อเชิ้ตหนังกลับที่มักจะเห็นได้บ่อยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งไม่เพียงแต่เหมาะกับการใส่เดี่ยวๆ เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เทคนิคการแต่งตัวแบบเลเยอร์สไตล์หัวหอม โดยสวมทับด้วยเสื้อกั๊กหรือแจ็คเก็ตสไตล์ Barn Jacket ก็จะช่วยสร้างลุคเท่ๆ ได้ในทันที ส่วนกางเกงเลือกเป็นกางเกงทรงตรงผ้าคอตตอนที่ทั้งสวมใส่สบายและช่วยพรางขาให้ดูยาวขึ้น ทำให้ลุคท่องเที่ยวของคุณดูมีสไตล์มากขึ้นค่ะ

ไอเดียแต่งตัวเที่ยวภูมิภาคคันโต 03: เสื้อไหมพรม+ กางเกงขาสั้นทรงเอ

แฟชั่นเที่ยวคันโต

แหล่งที่มาของภาพ

ช่วงปลายเดือนตุลาคมที่อุณหภูมิเริ่มลดลงเรื่อยๆ ก็ถึงเวลาหยิบไอเทมไหมพรมออกมาใส่กันแล้วค่ะ อย่างเช่นเสื้อที่ทอจากไหมพรมขนนก (Feather Yarn) ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายแล้ว ยังเป็นเนื้อผ้าที่ค่อนข้างเบาและนุ่ม ใส่ในกระเป๋าเดินทางก็ไม่เปลืองเนื้อที่และไม่หนักด้วยค่ะ ลองนำมาจับคู่กับกางเกงขาสั้นทรงเอที่ช่วยพรางสะโพกและทำให้ดูผอมเพรียว ส่วนรองเท้าเลือกเป็นรองเท้าบูทยาวซึ่งเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว เพื่อสร้างลุคท่องเที่ยวที่แอบเซ็กซี่เบาๆ และมีเสน่ห์น่าดึงดูดค่ะ

ไอเดียแต่งตัวเที่ยวภูมิภาคคันไซ 01: เสื้อคาร์ดิแกน + กระโปรงสั้น

แฟชั่นเที่ยวคันไซ

แหล่งที่มาของภาพ

เมื่อเทียบกับสภาพอากาศของภูมิภาคคันโตแล้ว อุณหภูมิของโอซาก้าและเกียวโตในภูมิภาคคันไซนั้นก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก เราเลยขอแนะนำให้ใช้เทคนิคการแต่งตัวแบบเลเยอร์สไตล์หัวหอมเช่นเดียวกัน ลองเพิ่มไอเทมอย่างเสื้อคาร์ดิแกนที่ให้ความอบอุ่นเข้าไป ถ้าใครขี้หนาวหน่อย จะเลือกใส่คู่กับเสื้อแจ็คเก็ตตัวสั้นหรือตัวยาวก็เหมาะสมมากค่ะ ลองดูไอเดียจากสาวๆ ญี่ปุ่นที่มิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อคาร์ดิแกนกับกระโปรงสั้น เพื่อสร้างลุคที่เต็มไปด้วยความน่ารักสดใสดูนะคะ

ไอเดียแต่งตัวเที่ยวภูมิภาคคันไซ 02: เสื้อแขนยาว + ชุดเดรส

แฟชั่นเที่ยวคันไซ

แหล่งที่มาของภาพ

เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือการพกเสื้อผ้าไปเยอะเกินไปจนกระเป๋าหนักเกิน หากอยากได้ลุคแบบสาวญี่ปุ่นแต่ยังคงดูดีมีสไตล์ ลองใช้เดรสที่ตัดเย็บสวยๆ ก็สามารถสร้างลุคที่โดดเด่นสะดุดตาได้ทันทีค่ะ ลองสวมทับเสื้อแขนยาวไว้ด้านในเพื่อเพิ่มเลเยอร์และจุดสนใจให้กับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ บวกกับการออกแบบคอวี (V-neck) ที่ช่วยให้ใบหน้าและช่วงไหล่ดูเพรียวบาง เทคนิคการแต่งตัวแบบนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเดือนตุลาคม เพราะเมื่ออากาศเย็นลง ไม่ว่าจะจับคู่กับเสื้อคลุมสไตล์ไหนก็เข้ากันได้ดีสุดๆ ค่ะ

ไอเดียแต่งตัวเที่ยวภูมิภาคคันไซ 03: แจ็คเก็ตยีนส์ + กางเกงยีนส์

แฟชั่นเที่ยวคันไซ

แหล่งที่มาของภาพ

ไอเทมยีนส์ที่กลับมาฮิตในวงการแฟชั่นทุกครั้งที่ฤดูใบไม้ร่วงมาถึง ปีนี้สาวๆ ญี่ปุ่นยิ่งแนะนำให้แต่งแบบ “เข้าชุด” หรือ Denim on Denim กันมากขึ้นค่ะ แจ็คเก็ตยีนส์และกางเกงยีนส์ที่เหมาะกับการใส่ในฤดูใบไม้ร่วงเดือนตุลาคม จะช่วยเพิ่มกลิ่นอายของความเรียบง่ายแต่เท่ในสไตล์สตรีทให้กับลุคของคุณ จากนั้นแค่แมทช์กับหมวกเบสบอล เสื้อลายทาง และรองเท้าผ้าใบ ก็ดูดีมีสไตล์ขึ้นมาทันทีเลยค่ะ

ไอเดียแต่งตัวเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุ 01: เสื้อสเวตเตอร์ + กระโปรงยาวทรงบาน

แฟชั่นเที่ยวโทโฮคุ

แหล่งที่มาของภาพ

สำหรับภูมิภาคโทโฮคุที่อากาศค่อนข้างหนาวเย็นกว่าในเดือนตุลาคม แม้ว่าอุณหภูมิอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ และอาจจะหนาวกว่าประมาณ 2-3 องศาด้วย แต่ตราบใดที่คุณรู้จักเทคนิคการแต่งตัวที่ดี ก็ไม่ต้องกังวลว่าเสื้อผ้าจะให้ความอบอุ่นไม่เพียงพอค่ะ ขอแนะนำให้เลือกสวมสเวตเตอร์แบบบางเพื่อเพิ่มความอบอุ่นก็เพียงพอแล้ว จากนั้นจับคู่กับกระโปรงยาวทรงบาน (A-line Skirt) ก็จะได้ลุคท่องเที่ยวที่ดูเรียบง่ายและผ่อนคลายค่ะ

ไอเดียแต่งตัวเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุ 02: เสื้อสเวตเชิ้ต + กางเกงคาร์โก้

แฟชั่นเที่ยวโทโฮคุ

แหล่งที่มาของภาพ

เวลาเลือกเสื้อผ้าสำหรับเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุในเดือนตุลาคม การเลือกเสื้อทรงหลวมๆ ไว้ก่อนรับรองว่าไม่มีผิดค่ะ เพราะไม่ว่าจะใส่เสื้อเพิ่มด้านในหรือจะสวมทับด้วยเสื้อคลุม ก็สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้ความอบอุ่นได้ตามสภาพอากาศได้ตลอดเวลา ส่วนท่อนล่างก็จับคู่กับกางเกงคาร์โก้หรือกางเกงขายาวแนวลำลอง เป็นสไตล์การแต่งตัวที่ฉลาดและใช้ได้กับทุกสถานการณ์เลยค่ะ

ไอเดียแต่งตัวเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุ 03: เสื้อคลุมไหมพรม + กางเกงยีนส์

แฟชั่นเที่ยวโทโฮคุ

แหล่งที่มาของภาพ

ภูมิภาคโทโฮคุมีอากาศเย็นสบายในตอนกลางวัน แต่จะเปลี่ยนเป็นหนาวในตอนกลางคืน เช่นที่เซ็นได, อาโอโมริ, และอาคิตะ ซึ่งในช่วงกลางถึงปลายเดือนตุลาคมจะเริ่มเห็นใบไม้เปลี่ยนสีแล้วค่ะ อยากแต่งตัวไปชมใบไม้เปลี่ยนสีแบบมีสไตล์ไหมคะ? ลองจับคู่เสื้อคลุมไหมพรม (Knit Cardigan) กับกางเกงยีนส์ดูสิคะ รับรองว่าจะได้ลุคเลเยอร์สไตล์ญี่ปุ่นที่ดูดีมีรสนิยมและน่ามองในทันทีเลยค่ะ

เกร็ดความรู้การแต่งตัวไม่มีพลาด

ในเดือนตุลาคมของญี่ปุ่นที่มีอุณหภูมิระหว่างช่วงเช้าและเย็นต่างกันของค่อนข้างมาก การใส่เสื้อแขนสั้นหรือการแต่งตัวแบบเลเยอร์ที่ซับซ้อนเกินไปอาจจะไม่ค่อยเหมาะสมแล้ว และอาจทำให้ประสบการณ์การท่องเที่ยวไม่ค่อยดีนัก หากต้องการสร้างลุคที่ไม่มีผิด คุณสามารถใช้ไอเทมพื้นฐานบางอย่างมาผสมผสานกัน ก็จะสามารถสร้างสไตล์ที่ต้องการและปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้แล้วค่ะ

ไอเทมที่ต้องมีในกระเป๋าเดินทาง

ไอเทมอย่างเสื้อแขนยาว, เสื้อไหมพรม, และเสื้อคาร์ดิแกน โดยเฉพาะแบบที่มีความหนาปานกลาง จะเหมาะมากสำหรับใส่ทับด้วยเสื้อคลุมเมื่ออากาศเย็นลงในตอนกลางคืน นอกจากนี้ การเลือกเสื้อที่มีทรงหลวมๆ จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มเสื้อผ้าด้านในได้ตลอดเวลา ลองใช้ไอเดียการแต่งตัวที่เราแนะนำไปเป็นแรงบันดาลใจดูนะคะ รับรองว่าจะช่วยให้คุณสร้างลุคสไตล์ญี่ปุ่นที่โดดเด่นและน่าประทับใจได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ