เพื่อนๆ ที่ชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นเคยอยากลองอะไรใหม่ๆ นอกเหนือจากการเที่ยวในโตเกียวบ้างไหม? ถ้าใช่ล่ะก็ วันนี้เรามีไอเดียมานำเสนอให้คุณ! ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวแบบวันเดย์ทริปจากโตเกียวกันดูไหม? ยังมีเมืองสวยๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ทั้งท่ามกลางหุบเขาและริมทะเลรอให้คุณไปค้นพบ ไม่ว่าคุณจะพักอยู่ที่ไหนของโตเกียว สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่สามารถเดินทางไปถึงได้ง่ายๆ ภายในเวลาไม่เกินสองชั่วโมง สะดวกสุดๆใช่มั้ยคะ! แถมยังมีตั๋ว One-day Pass มากมายหลายแบบให้เลือกใช้ ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายและประหยัดได้อีกด้วย ใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ๆ ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยนะ เตรียมกระเป๋าเดินทางให้พร้อม แล้วออกไปผจญภัยพร้อมกับเรา! รับรองว่าทริปนี้จะสนุกและน่าประทับใจแน่นอน!

01. อาตามิ

ถ้าพูดถึงแหล่งออนเซ็นใกล้โตเกียวที่ห้ามพลาด “อาตามิ” จะต้องมีชื่อในนั้น! สำหรับใครที่รักการแช่ออนเซ็น ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด! จากสถานีชินจูกุ คุณสามารถเลือกนั่งรถไฟ JR หรือจะอัปเกรดประสบการณ์ด้วยการนั่งชินคันเซ็นความเร็วสูงก็ได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็จะได้สัมผัสกับน้ำพุร้อนธรรมชาติแท้ๆ ที่จะช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า สบายตัวสุดๆ ไปเลย และที่อาตามิไม่ได้มีดีแค่ออนเซ็นเท่านั้นนะ! ทุกๆ ปี ที่อาตามิจะมีการจัดเทศกาลดอกไม้ไฟสุดยิ่งใหญ่อลังการ เทศกาลนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือนกันอย่างล้นหลาม ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศคึกคัก แสงสีเสียง และความสวยงามของดอกไม้ไฟ ต้องรีบจดชื่ออาตามิไว้ในลิสต์เที่ยวเลยนะคะ นอกจากเทศกาลดอกไม้ไฟที่โด่งดังเป็นพลุแตกแล้ว อาตามิยังเต็มไปด้วยทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งภูเขาสีเขียวชอุ่มที่ให้ความรู้สึกสดชื่น และทะเลสีครามสดใสให้ได้ชมกันเพลินๆ แถมยังมีของอร่อยขึ้นชื่อให้เลือกชิมอีกเพียบ! อาตามิเป็นเมืองที่เหมาะกับการไปเที่ยววันเดย์ทริปจริงๆ

สถานที่ท่องเที่ยวในอาตามิ: ศาลเจ้าคิโนมิยะ, พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA, สวนอาตามิซันซุย, ปราสาทอาตามิ, ถนนคนเดินนากามิเสะ

02. คาวาโกเอะ

คาวาโกเอะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในด้านสถาปัตยกรรมจนได้รับฉายานามว่าเป็น “โคเอโดะน้อย” หรือเอโดะขนาดย่อมแห่งชานเมืองโตเกียวเลยทีเดียว เดินทางจากสถานีอิเคะบุคุโระในโตเกียว ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีเท่านั้นเอง สะดวกและรวดเร็วมากๆ จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่เหมาะสุดๆ สำหรับการไปเที่ยววันเดย์ทริป และขอแนะนำให้ซื้อตั๋วสุดคุ้มอย่าง “Seibu Kawagoe Pass”ก่อนไปนะคะ ตั๋วใบนี้จะช่วยให้คุณ สามารถใช้ขึ้นรถไฟและรถบัสในพื้นที่ที่กำหนดของคาวาโกเอะได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง คุ้มค่ามากๆเลยใช่มั้ยคะ และล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2025 ที่ผ่านมานี้ ร้าน “จิอิคาวะ” (Chiikawa) คาแรคเตอร์สุดฮิตขวัญใจใครหลายๆ คน ก็ได้มาเปิดใหม่ที่คาวาโกเอะด้วยล่ะ! สินค้าคอลเลคชั่นพิเศษที่ทำจากมันหวาน ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของคาวาโกเอะ ก็น่ารักเกินห้ามใจสุดๆ จนกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ล่าสุดที่แฟนๆต้องรีบไปเช็คอินให้ได้เลย!

สถานที่ท่องเที่ยวในคาวาโกเอะ: ถนนอิจิบังไก, ศาลเจ้าฮิคาวะ, ศาลเจ้าคุมาโนะ, วัดคิตะอิน, ร้านจิอิคาวะ สาขาคาวาโกเอะ

03. ไซตามะ

จังหวัดไซตามะอยู่ติดกับโตเกียว เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ผสมผสานทั้งออนเซ็นธรรมชาติและวัฒนธรรมอันเก่าแก่ได้อย่างลงตัว และการเดินทางก็สะดวกสบายสุดๆ เพียงนั่งรถไฟจากสถานีชินจูกุในโตเกียว และจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นก็จะถึง สำหรับใครที่วางแผนจะไปเที่ยวไซตามะ ขอแนะนำให้ซื้อ “Seibu Railway Pass” แต่อย่าลืมว่าตอนซื้อตั๋วจะต้องแสดงหนังสือเดินทางของคุณด้วยนะ ตั๋วใบนี้สามารถท่องเที่ยวไปตามเส้นทางรถไฟสาย Seibu ได้อย่างเต็มที่ จะขึ้นลงสถานีไหนกี่ครั้งก็ได้ตามใจชอบเลย สะดวกสบายมากๆ ทำให้คุณสามารถเก็บครบทุกจุดเช็คอินและสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไปได้ในวันเดียวเลย

สถานที่ท่องเที่ยวในไซตามะ: สวนมูมินวัลเลย์, เมืองคาซึคาเบะ, ศาลเจ้าฮิคาวะ, ป่าโทโทโร่, พิพิธภัณฑ์คาโดคาวะ มูซาชิโนะ, ศาลเจ้ามิตสึมิเนะ

04. คารุอิซาวะ

คารุอิซาวะเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเต็มไปด้วยทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงามของญี่ปุ่น ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงที่พักผ่อนธรรมดานะคะ แต่ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ญี่ปุ่นชื่อดังอย่างเรื่อง “Quartet” อีกด้วย! ใครเป็นแฟนซีรีส์เรื่องนี้ต้องมาตามรอยเลยนะ คารุอิซาวะตั้งอยู่ในจังหวัดนากาโนะ คุณสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นไปถึงได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง และที่คารุอิซาวะ คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง ฤดูร้อนที่อากาศเย็นสบายเหมาะแก่การหลีกหนีความวุ่นวาย ฤดูใบไม้ร่วงที่เต็มไปด้วยสีสันของใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีสุดโรแมนติก หรือฤดูหนาวที่หิมะโปรยปรายขาวโพลนสวยงามราวกับภาพวาด พูดได้เลยว่าไม่ว่าจะไปเที่ยวคารุอิซาวะในช่วงไหน ก็เป็นตัวเลือกที่ดีงามเสมอ!

สถานที่ท่องเที่ยวในคารุอิซาวะ: สระคุโมะบะ, โบสถ์หิน , ถนนกินซ่าคารุอิซาวะ, พิพิธภัณฑ์ศิลปะเซนจู ฮิโรชิ, น้ำตกชิราอิโตะ

05. ฮายามะ

ฮายามะตั้งอยู่ในจังหวัดคานางาวะ ที่นี่อาจจะเป็นเมืองชายทะเลที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยมากนัก แต่ขอบอกเลยว่าเป็นเมืองเล็กๆ ริมทะเลที่มีเสน่ห์น่าค้นหามากๆ เลยค่ะ ใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมงจากโตเกียว สะดวกสบายมากๆเลย สำหรับใครที่อยากหนีความวุ่นวายจากผู้คน อยากจะพักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศที่เงียบสงบ และเพลิดเพลินกับการเดินทางท่องเที่ยวแบบส่วนตัว ฮายามะนี่แหละเป็นคำตอบสำหรับคุณ และเราขอแนะนำให้ซื้อ “Hayama Joshi Tabi Kippu”ก่อนไปนะคะ ตั๋วนี้ไม่ได้แค่รวมค่าเดินทางไป-กลับด้วยรถไฟสาย Keikyu จากสถานีชินากาวะเท่านั้นนะคะ แต่ยังรวมคูปองสำหรับเลือกทานอาหารอร่อยๆ และคูปองสำหรับแลกของที่ระลึกสุดพิเศษอีกด้วย คุ้มค่าเกินราคามากๆ เลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ทริปฮายามะของคุณ พิเศษยิ่งขึ้นไปอีก!

สถานที่ท่องเที่ยวในฮายามะ: ชายหาดซูชิ, ศาลเจ้าคาเมะกาโอกะ ฮาจิมังกู, ศาลเจ้าโมริโตะ, สวนทาเทอิชิ, เส้นทางเดินป่าแม่น้ำมาเอดะ

06. คามาคุระ

คามาคุระเป็นเมืองชายทะเลที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของวัฒนธรรมซามูไรในอดีต เสน่ห์ของเมืองนี้ไม่ได้มีแค่วัฒนธรรมเก่าแก่เท่านั้นนะคะ แต่ยังเป็นที่รู้จักจากอนิเมะชื่อดังหลายเรื่อง และถ้าวันไหนอากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิอันสวยงามได้จากที่นี่อีกด้วย ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้คามาคุระเป็นตัวเลือกยอดฮิตของนักท่องเที่ยวเสมอมา! การเดินทางก็สะดวกมากๆเลย เพียงนั่งรถไฟจากสถานีชินจูกุ และใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ สำหรับการเดินทางในคามาคุระ เราขอแนะนำให้ซื้อตั๋ว “Odakyu Enoden Pass” มาด้วยนะ จะคุ้มค่ามากๆ หรือถ้าใครอยากจะเที่ยวเฉพาะในส่วนของรถไฟสาย Enoden ก็สามารถซื้อตั๋ววัน “Enoden Day Pass” แยกต่างหากก็ได้เช่นกัน

สถานที่ท่องเที่ยวในคามาคุระ: ถนนคนเดินโคมาจิโดริ, พระใหญ่ไดบุตสึแห่งคามาคุระ, ชายหาดชิจิริกาฮามะ, เกาะเอโนะชิมะ, สถานีรถไฟคามาคุระโคโคมาเอะ, ศาลเจ้าสึรุงะโอกะ ฮาจิมังกู

07. นิกโก

นิกโกตั้งอยู่ในจังหวัดโทจิงิ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม ที่นี่มีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล แต่ถ้าจะให้พูดถึงช่วงที่พิเศษที่สุด ขอยกให้เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงเลยค่ะ! ทั่วทั้งภูเขาจะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันของใบเมเปิ้ล ทั้งสีแดง สีส้ม สีเหลือง สวยงามจนแทบลืมหายใจเลยจริงๆ เป็นภาพที่งดงามจนทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนตกหลุมรักและอยากกลับมาเยือนซ้ำแล้วซ้ำอีก และการเดินทางมาที่นี่ คุณสามารถเลือกเดินทางด้วยรถไฟ JR หรือจะจองตั๋วรถไฟด่วนพิเศษ “Nikko Limited Express” ล่วงหน้าก็ได้ จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจากสถานีชินจูกุไปถึงนิกโก

สถานที่ท่องเที่ยวในนิกโก: ศาลเจ้านิกโกโทโชกู, น้ำตกเคงอน, ทะเลสาบชูเซ็นจิ, ถนนอิโรฮาซากะ, สะพานชินเคียว

08. คาวากุจิโกะ

ทะเลสาบคาวากุจิโกะตั้งอยู่ในจังหวัดยามานาชิ และที่นี่ก็คือหนึ่งในจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามและคลาสสิกที่สุด! ถ้าเพื่อนๆ คนไหนยังไม่เคยไป ขอบอกเลยว่าพลาดไม่ได้เด็ดขาด! ในทริปครั้งหน้า ต้องหาโอกาสไปสัมผัสกับความงดงามอลังการของภูเขาไฟฟูจิแบบใกล้ชิดที่คาวากุจิโกะให้ได้นะคะ รับรองว่าจะประทับใจไม่รู้ลืมเลย ในส่วนการเดินทาง คุณสามารถเลือกนั่งรถบัสทางด่วน (Highway Bus) หรือจะนั่งรถไฟด่วนพิเศษ “Fuji Excursion” ก็ได้ และจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนของทะเลสาบคาวากุจิโกะ ภูเขาไฟฟูจิก็ยังคงสวยงามโดดเด่นเสมอ

สถานที่ท่องเที่ยวในคาวากุจิโกะ: ทะเลสาบยามานากะโกะ, หมู่บ้านน้ำใสโอชิโนะฮักไก, สวนเท็นโจซัง, ร้านนาฬิกาฮิคาวะ, สวนโออิชิ

09. ฮาโกเน่

ฮาโกเน่ตั้งอยู่ในจังหวัดคานางาวะ เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดฮิตสุดๆ สำหรับชาวโตเกียวที่ต้องการหนีความวุ่นวายไปพักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ การเดินทางสะดวกสบาย แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบให้เลือกเที่ยวอีกด้วย จากสถานีชินจูกุ จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง และสำหรับใครที่วางแผนจะไปเที่ยวฮาโกเน่ เราขอแนะนำให้ซื้อ “Hakone Freepass”ไปด้วย และตั๋วนี้มีให้เลือกทั้งแบบ 2 วันและ 3 วันตามความต้องการ ตั๋วใบนี้จะช่วยให้คุณสามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 8 ประเภทในฮาโกเน่ได้อย่างอิสระ ทำให้การเดินทางจากในเมืองไปยังจุดต่างๆ ในฮาโกเน่สะดวกสบายและรวดเร็วมากๆ แถมยังได้สัมผัสกับทัศนียภาพที่สวยงามหลากหลายรูปแบบอีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในฮาโกเน่: ทะเลสาบอาชิ, ศาลเจ้าฮาโกเน่, หุบเขาโอวากูดานิ, ท่าเรือโทเก็นได, พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเน่

สถานีต่อไป ออกเดินทางจากโตเกียวกัน!

เห็นไหมคะว่ารอบๆโตเกียวยังมีเมืองที่มีเสน่ห์น่าค้นหาซ่อนอยู่อีกมากมายเลย ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไกล หรือใช้เวลานานหลายวัน ก็สามารถทำให้ทริปญี่ปุ่นของคุณพิเศษและน่าจดจำยิ่งขึ้นได้ ไม่ว่าคุณจะอยากไปแช่ออนเซ็นให้สบายตัว ชมวิวทะเลสวยๆ ตามไปชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดโรแมนติก หรือตะลุยชิมของอร่อยขึ้นชื่อ เส้นทางท่องเที่ยวแบบวันเดย์เหล่านี้ที่เราคัดสรรมาให้ ล้วนสามารถมอบความสุขและความประทับใจให้คุณได้แบบเต็มๆ ลองวางแผนทริปญี่ปุ่นครั้งหน้าให้แตกต่างไปจากเดิมดูสิ แล้วใช้วิธีการเดินทางท่องเที่ยวแบบสบายๆ เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ และสร้างความทรงจำดีๆในมุมมองใหม่กันเถอะ!