teamLab สร้างสรรค์ผลงานศิลปะด้วยแสงและภาพในหลายๆ ที่ทั่วโลก แต่ละพื้นที่จัดแสดงของ teamLab ล้วนสร้างความประหลาดใจและมอบประสบการณ์การชมที่แตกต่างกันไป ครั้งนี้จะพาไปชม teamLab ★ Borderless ซึ่งตั้งอยู่ใน Roppongi Azabudai Hills ตามชื่อเลยคือมีแนวคิด “ไร้ขอบเขต” ทำให้คุณสามารถหลงทิศทางได้ง่ายๆ แต่ในทุกมุมก็เต็มไปด้วยศิลปะที่น่าค้นหา แนะนำให้ใช้เวลาครึ่งวันในการสำรวจที่นี่ให้เต็มที่

teamLab ★ Borderless สามารถเดินทางจากสถานีได้ในสามนาที

teamLab Borderless ตั้งอยู่ใน Azabudai Hills Garden Plaza B B1 เดินจากสถานี Kamiyacho สาย Tokyo Metro Hibiya ออกไปที่ทางออกใหม่หมายเลข 5 แล้วเดินต่อประมาณ 2 นาที คุณจะพบกับทางเข้าที่โดดเด่นของ teamLab Borderless โดยไม่ต้องตาม Google Maps เพราะมันอาจพาคุณเดินอ้อมไปยัง B1

ต้องถ่ายภาพที่ทางเข้า teamLab ★ Borderless

ก่อนที่จะเข้าสู่จุดตรวจตั๋ว มีจุดถ่ายภาพสำคัญที่ไม่ควรพลาด คำว่า “ไร้ขอบเขต” ที่ปรากฏเป็นตัวหนังสือสีดำบนผนัง หากมองจากมุมด้านข้าง แต่ถ่ายจากจุดถ่ายภาพที่ระบุ จะเห็นตัวหนังสือลอยเด่นขึ้นมา เป็นจุดที่ทุกคนต้องหยุดถ่ายก่อนเข้าไปในพิพิธภัณฑ์

พื้นที่เก็บสัมภาระที่เพียงพอและสะดวกสบายของ teamLab ★ Borderless

ก่อนเข้าชมนิทรรศการ จะมีพื้นที่สำหรับฝากของ มีล็อกเกอร์จำนวนมากสำหรับเก็บสัมภาระทั้งหมด ยกเว้นของมีค่า คุณสามารถเพลิดเพลินกับศิลปะได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องถือของพะรุงพะรัง ล็อกเกอร์มีเพียงพอสำหรับใช้งานไม่ว่าจะเข้าหรือออก

นอกจากล็อกเกอร์ขนาดกลางแล้ว หากคุณมีกระเป๋าเดินทางหรือรถเข็นเด็ก ยังมีพื้นที่ฝากของพร้อมรหัสล็อกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีราวสำหรับแขวนร่มยาวติดกับผนังสำหรับการใช้งาน

teamLab ★ Borderless หอศิลป์ไร้แผนที่

หลังจากตรวจตั๋วแล้ว จะมีการรวมกลุ่มประมาณ 10 คน แล้วจะพาเข้าสู่ห้องมืดสนิท บนจอจะมีการแสดงข้อควรระวังเป็นภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น จีน และเกาหลี โปรดดูอย่างระมัดระวัง ควรจับมือเด็กๆ ไว้ เนื่องจากภายในเต็มไปด้วยแสงและจอภาพ หากวิ่งหรือชนอาจทำลายศิลปะหรือรบกวนผู้อื่นได้

นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่อยู่ตามจุดต่างๆ คอยเตือนและป้องกันการกระทำที่ไม่เหมาะสม จงเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีเมื่อเข้าชม

teamLab Borderless เป็นการสร้างสรรค์พื้นที่ศิลปะไร้ขอบเขตจากทีมศิลปิน ทำให้ที่นี่กลายเป็น “พิพิธภัณฑ์ไร้แผนที่” ผลงานแต่ละชิ้นไม่มีเส้นแบ่งชัดเจนและเชื่อมโยงกัน บางจุดเมื่อสัมผัสผนังจะเกิดปฏิกิริยาทำให้ดอกไม้บานและร่วงโรย สร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นตั้งแต่เริ่มต้น

เมื่อเดินไปตามผนังที่ถูกจัดวางแบบสลับซับซ้อน จะพบกับทางออกหรือทางเดินที่แตกต่างกันในแต่ละมุม เมื่อเดินผ่านไปคุณจะได้พบกับภาพที่ต่างกันออกไป หรืออาจนำคุณไปยังพื้นที่จัดแสดงอื่น ๆ ภายในงานไม่มีการจัดแผนที่ ทุกคนจะเดินไปตามใจชอบ เลี้ยวไปตามทางที่สนใจหรือเข้าสู่ทางเข้าต่าง ๆ เพื่อไปยังห้องจัดแสดงใหม่ ๆ

หากไม่ระวังอาจหลงทิศทางได้ง่าย ๆ แต่หากเข้าสู่ทางเดินหรือห้องจัดแสดงที่ไม่เคยไปมาก่อน คุณจะรู้สึกเหมือนได้เปิดของขวัญใหม่ ๆ เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสุข

พื้นที่จัดแสดงที่ล้อมรอบเป็นวงกลมนี้ มีงานศิลปะที่คล้ายกับภูเขาเล็ก ๆ ติดอยู่ตรงกลางใกล้กับผนัง ภาพในพื้นที่จะแปรเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลีบดอกไม้หรือน้ำตก ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึง teamLab Borderless นอกจากนี้ ยังสามารถโต้ตอบกับภาพเหล่านี้ได้อีกด้วย!

เช่น เมื่อยืนอยู่ใกล้กับผนังในขณะที่น้ำตกไหลลงมา น้ำที่กระทบกับศีรษะจะกระเด็นออกเหมือนชนกับหัวคุณ บางครั้งจะมีนกสีขาวบินเข้ามาในพื้นที่ หากคุณแตะที่ผนังตามเส้นสีขาวในเส้นทางที่นกบินผ่าน จะมีดอกไม้บานสะพรั่งและกระจายไปในอากาศอย่างงดงาม

แน่นอนว่าในที่นี้ก็มีภาพวาดแบบโต้ตอบที่เป็นเอกลักษณ์ของ teamLab โดยบนผนังของพื้นที่จะมีสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งถูกวาดขึ้นโดยผู้เข้าชมต่าง ๆ เคลื่อนไหวไปมาอย่างสวยงาม

อีกหนึ่งพื้นที่ที่ขอแนะนำอย่างยิ่งคือ พื้นที่ที่เต็มไปด้วยไฟ LED แบบเส้นตรงจำนวนมาก ซึ่งเมื่อคุณยืนอยู่ตรงกลาง พื้นและเพดานที่ปูด้วยกระจกจะสร้างภาพลวงตาว่าเส้นแสงเหล่านั้นยืดออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แสงไฟที่ส่องประกายไปมาในพื้นที่นี้งดงามมาก

ในอีกพื้นที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยแผ่นวงกลมตั้งตรงซึ่งคล้ายกับใบของดอกบัว จะมีภาพของใบไม้ ดอกไม้ หรือปลาตัวเล็ก ๆ ว่ายไปมาฉายลงบนแผ่นใบลอยนั้น

อีกพื้นที่หนึ่งที่น่าประทับใจไม่แพ้กันคือ พื้นที่ที่มีโคมไฟทรงกลมขนาดต่าง ๆ วางอยู่ในระดับสูงต่ำที่ไม่เท่ากัน เมื่อรวมกับผนังกระจกที่สะท้อนแสง จะดูเหมือนมีโคมไฟทรงกลมจำนวนมากตั้งอยู่ตรงนั้น แสงและสีที่เปลี่ยนไปในทุกมุมมองจะสร้างบรรยากาศที่แตกต่างออกไป แต่สำหรับคนที่กลัวความหนาแน่น อาจจะรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยเมื่อเข้ามาในพื้นที่นี้

สุดท้ายนี้ ขอแนะนำพื้นที่จัดแสดงภาพลวงตาอันน่าทึ่ง ที่ห้ามพลาดเข้าชมเช่นกัน เมื่อคุณยืนอยู่ในจุดที่กำหนด คุณจะรู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุน แม้ว่าจะมีเพดานแต่ก็เหมือนว่าภาพลวงตานั้นล้อมรอบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถรับรู้ได้จากภาพถ่าย จึงขอแนะนำให้ลองยืนอยู่ในพื้นที่นี้และสัมผัสด้วยตัวเอง

View this post on Instagram

A post shared by Japaholic (@japaholic_official)

EN TEA HOUSE 幻茶亭

ในพื้นที่จัดแสดงยังมีห้องชาชื่อ EN TEA HOUSE 幻茶亭 ที่สามารถสั่งเครื่องดื่มชาและไอศกรีมแบบทำเอง เมื่อวางชาหรือไอศกรีมบนโต๊ะ จะมีดอกไม้บานในถ้วยชา และต้นไม้เล็กๆ ขึ้นบนไอศกรีม มีผีเสื้อบินวน

มื่อดอกไม้ในถ้วยบานแล้ว หากเคลื่อนย้ายถ้วย ดอกไม้จะกระจายตัว และดอกไม้ใหม่จะบานที่ตำแหน่งใหม่ สนุกมาก ไม่มีการจำกัดเวลา คุณสามารถเพลิดเพลินกับชาและไอศกรีมพร้อมกับสนทนาได้ตามสบาย

วิธีการซื้อบัตรเข้าชม teamLab ★ Borderless

เนื่องจาก teamLab Borderless จำกัดจำนวนผู้เข้าชมในแต่ละช่วงเวลา แนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าทางออนไลน์เพื่อหลีกเลี่ยงการมาถึงแล้วพบว่าตั๋วหมด หากไม่มีตั๋วในเว็บไซต์ทางการ ลองตรวจสอบใน Klook บางครั้งอาจมีตั๋วเหลืออยู่ ไม่ว่าจะซื้อตั๋วจาก Klook หรือเว็บไซต์ทางการ คุณสามารถแสดง QR Code บนมือถือเพื่อเข้าสถานที่ได้เลย ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ QR Code ออกมา

teamLab ศิลปะไร้ขอบเขต คุ้มค่าที่จะใช้เวลาครึ่งวันเพื่อสัมผัสประสบการณ์

ข้อมูลสถานที่

• ชื่อ: teamLab Borderless: Mori Digital Art Museum
• ที่อยู่: Tokyo-to Minato-ku Azabudai 1-2-4 Azabudai Hills Garden Plaza B B1

หากมาโตเกียวและไม่รู้จะไปไหน หรือมีเวลาแค่ครึ่งวันไม่สะดวกเดินทางไปสถานที่ไกลๆ ขอแนะนำ teamLab Borderless ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ Tokyo Tower การเดินทางสะดวก และการจัดแสดงภายในจะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้น ประทับใจไปกับศิลปะที่ใช้แค่ภาพและแสงสร้างสรรค์อย่างมหัศจรรย์ ครั้งหน้าที่มาโตเกียว ลองวางแผนใช้เวลาครึ่งวันเยี่ยมชมดู!