15 จุดเช็คอินสุดฮิตในยามากุจิที่คุณห้ามพลาด!

Catalog
- 01. สะพานสึโนะชิมะ โอฮาชิ (Tsunoshima Ohashi Bridge)
- 02. สวนฮิโยริยามะ (Hiyoriyama Park)
- 03. เจดีย์ห้าชั้น วัดรุริโคจิ (Ruriko-ji Temple Five-Storied Pagoda)
- 04. ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ (Motonosumi Shrine)
- 05. สระเบปปุเบ็นเท็น (Beppu Benten Pond)
- 06. ย่านเมืองเก่า รอบปราสาทฮากิ (Hagi Castle Town)
- 07. สะพานคินไตเคียว (Kintaikyo Bridge)
- 08. ปราสาทอิวาคุนิ (Iwakuni Castle)
- 09. ถ้ำอะคิโยชิโด (Akiyoshido Cave)
- 10. แหลมคาวาชิริ (Kawashiri Cape)
- 11. หาดKIWA・RA
- 12. เกาะโอมิจิมะ (Omi Island)
- 13. ทางเดินชมวิวเหนือน้ำ
- 14. วิวยำค่ำคืน โรงงานอุตสาหกรรมชูนัน (Shunan Factory Night View)
- 15. ศาลเจ้าโฮฟุเท็นมังกู (Hofu Tenmangu Shrine)
- แนะนำ 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดยามากุจิที่คุณต้องไปเช็คอิน!
หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับจังหวัดยามากุจิสักเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึง “สนธิสัญญาชิโมโนเซกิ” (Treaty of Shimonoseki) ที่เราเคยเรียนกันในประวัติศาสตร์แล้วล่ะก็ คงจะร้องอ๋อ! กันเลยใช่ไหมคะ? สนธิสัญญาฉบับนี้ได้ลงนามกันที่เมืองชิโมโนเซกิในจังหวัดยามากุจินี่เอง และเมืองท่าติดทะเลแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่ทิวทัศน์ทะเลที่กว้างไกลเท่านั้นนะ แต่ยังเป็นขุมทรัพย์ของอาหารทะเลสดใหม่นานาชนิด! นอกจากนี้ ที่เมืองนางาโตะ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและคุ้มค่าแก่การไปเยือนอีกเพียบเลยค่ะ! ตามมาดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้าง
วันที่เผยแพร่บทความ: 29 กุมภาพันธ์ 2024 / วันที่แก้ไข: 25 มีนาคม 2025
01. สะพานสึโนะชิมะ โอฮาชิ (Tsunoshima Ohashi Bridge)
เริ่มต้นกันที่แรกกับสะพานสึโนะชิมะโอฮาชิ สะพานแห่งนี้มีความยาวถึง 1,780 เมตร มีเส้นทางยาวข้ามทะเลเชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่ในเขตคันดะ เมืองโทโยคิตะ กับเกาะสึโนะชิมะ (Tsunoshima Island) และที่นี่ยังเป็นโลเคชั่นยอดนิยมสำหรับถ่ายทำละครและโฆษณามากมายอีกด้วยวิวสวยๆแบบนี้ บอกเลยว่าต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง!
■ ที่อยู่: Tsunoshima, Shimonoseki-shi, Yamaguchi Prefecture(山口県下関市豐北町大字角島)
02. สวนฮิโยริยามะ (Hiyoriyama Park)
ถ้าคุณมีแพลนมาเที่ยวจังหวัดยามากุจิในช่วงฤดูใบไม้ผลิล่ะก็ ขอแนะนำ “สวนฮิโยริยามะ” ในเมืองชิโมโนเซกิ ที่นี่เป็นจุดชมซากุระยอดนิยมที่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างก็ชื่นชอบ และที่นี่ยังสามารถชมวิวอันกว้างใหญ่ของช่องแคบคันมง (Kanmon Straits) ได้อีกด้วย
■ ที่อยู่: 5 Chome Maruyamacho, Shimonoseki-shi, Yamaguchi Prefecture(山口県下関市丸山町5丁目)
■ OFFICIAL SITE
03. เจดีย์ห้าชั้น วัดรุริโคจิ (Ruriko-ji Temple Five-Storied Pagoda)
วัดรุริโคจิ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนโคซัน (Kozan Park) เดิมทีมีชื่อว่า“วัดโคเซคิจิ (Kosekiji Temple)” และสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 14 โดยโออุจิ โยชิฮิโระ (Ouchi Yoshihiro) ไดเมียวผู้ปกครองดินแดนแถบนี้ในสมัยนั้น เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ตระกูลของท่าน หลังจากที่ท่านโยชิฮิโระเสียชีวิต โออุจิ โมริฮารุ (Ouchi Moriharu) น้องชายของท่านจึงได้สร้างเจดีย์ห้าชั้นนี้ขึ้นเพื่อรำลึกถึงพี่ชายของตน ต่อมาวัดโคเซคิจิได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองฮากิ (Hagi) ส่วนชื่อ “วัดรุริโคจิ” ที่ใช้ในปัจจุบันนั้นเป็นชื่อของวัดที่ย้ายมาจากเขตนินโบ (Ninbo) นั้นเอง
แต่ในปัจจุบัน เจดีย์ห้าชั้นองค์สำคัญนี้กำลังอยู่ระหว่างการบูรณะครั้งใหญ่ในรอบประมาณ 70 ปี โดยมีกำหนดการตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 ถึงเดือนมีนาคม 2026 ภาพด้านบนแสดงความคืบหน้า ณ วันที่ 18 มีนาคม 2025 โดยคาดว่าจะมีการรื้อถอนเหล็กออกประมาณในเดือนกรกฎาคม 2025 อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างการบูรณะนี้ ก็จะมีการจัดแสดงสิ่งที่น่าสนใจและมีคุณค่าเช่น “การจัดแสดงพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ซ่อนไว้” ซึ่งเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ ที่จะได้ชมค่ะ ใครที่เป็นสายมูหรือสนใจสถาปัตยกรรมโบราณ ก็ยังสามารถแวะไปเยี่ยมชมได้นะคะ
■ ที่อยู่: 7-1 Kozancho, Yamaguchi-shi, Yamaguchi Prefecture (山口縣山口市香山町7-1 )
■ เวลาทำการ: วัดรุริโคจิเข้าชมได้อิสระ, พิพิธภัณฑ์เปิดให้บริการช่วง 09:00~17:00
■ OFFICIAL SITE
04. ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ (Motonosumi Shrine)
ศาลเจ้าแห่งนี้โดดเด่นด้วยเสาโทริอิสีแดงสดจำนวน 123 ต้น ที่ตั้งเรียงกันไปตามแนวหน้าผาสูงชันริมทะเล ทำให้เกิดเป็นภาพที่งดงามตัดกับสีครามของน้ำทะเลและท้องฟ้าได้อย่างน่าอัศจรรย์ จนกลายเป็นศาลเจ้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น และยังได้รับการคัดเลือกจาก CNN ของสหรัฐอเมริกาให้เป็นหนึ่งใน “31 สถานที่ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น” อีกด้วย ใครที่ชอบถ่ายรูป รับรองว่ามุมนี้ได้รูปแน่นอน! แต่ต้องระวังเรื่องเวลาทำการด้วยนะคะ เพราะที่นี่เปิดถึงแค่ 16:30 น. และเมื่อถึงเวลาแล้วจะต้องออกจากบริเวณศาลเจ้าทันทีเลย วางแผนการเดินทางกันให้ดีๆ นะ
■ ที่อยู่: 498 Yuyatsuo, Nagato-shi, Yamaguchi Prefecture(山口県長門市油谷津黄498)
■ เวลาทำการ: 07:00~16:30
■ OFFICIAL SITE
05. สระเบปปุเบ็นเท็น (Beppu Benten Pond)
ถ้าฮอกไกโดมีสระอะโออิเคะ (Aoiike Pond) ที่ยามากุจิก็มีสระเบปปุเบ็นเท็นนี่แหละ! น้ำในสระแห่งนี้มีอุณหภูมิคงที่อยู่ที่ 14 องศาเซลเซียส และมีความใสสะอาด จนทำให้ทั้งสระเปล่งประกายสีฟ้าอมเขียวมรกตราวกับภาพในฝัน นอกจากความสวยงามที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมแล้ว น้ำจากสระเบปปุเบ็นเท็นยังถูกนำไปใช้ในการเลี้ยงปลาเทราต์อีกด้วย เพื่อเป็นการขอบคุณเทพเจ้าแห่งสายน้ำ ในทุกๆ ฤดูใบไม้ร่วงจะมีการจัดแสดงระบำเน็มบุตสึ (Nembutsu Dance) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจและควรค่าแก่การชมอย่างยิ่ง อย่าลืมเก็บที่นี่เป็นหนึ่งตัวเลือกของคุณนะ
■ ที่อยู่: 1591 Beppu, Akiyoshi-cho, Mine-shi, Yamaguchi Prefecture (山口県美祢市秋芳町別府1591番地2)
■ OFFICIAL SITE
06. ย่านเมืองเก่า รอบปราสาทฮากิ (Hagi Castle Town)
ญี่ปุ่นมีเมืองเก่าที่มีเสน่ห์หลายแห่ง เช่น ถนนฮานามิโคจิ (Hanamikoji) ในเกียวโต หรือเมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe) ในไซตามะ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของอาคารบ้านเรือนไม้แบบโบราณ และที่ย่านเมืองเก่า รอบปราสาทฮากิในจังหวัดยามากุจิก็เช่นกัน นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา ตระกูลโมริ (Mori Clan) ผู้ปกครองดินแดนแถบนี้ได้ตั้งศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่เมืองฮากิ และได้สร้างปราสาทฮากิรวมถึงเมืองรอบปราสาทขึ้น อาคารบ้านเรือนของเหล่าซามูไรที่สร้างขึ้นตามลำดับชั้นในสมัยนั้น ก็คือตรอกเอโดะยะโยโกโจ (Edoya Yokocho) ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีจนถึงปัจจุบัน ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศย้อนยุคและสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม ต้องลองมาเดินเล่นที่นี่ดูนะคะ
■ ที่อยู่: 2 Chome Gofukumachi, Hagi-shi, Yamaguchi Prefecture(萩市呉服町2丁目)
■ เวลาเปิด-ปิด: เข้าชมได้อิสระ
■ OFFICIAL SITE
07. สะพานคินไตเคียว (Kintaikyo Bridge)
สะพานคินไตเคียว เรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีของจังหวัดยามากุจิ และยังเป็นหนึ่งใน “สามสะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น” ร่วมกับสะพานนิฮอนบาชิ (Nihonbashi Bridge) ในเกียวโต และสะพานเมกาเนะบาชิ (Meganebashi Bridge) ในนางาซากิ ลักษณะเด่นของสะพานแห่งนี้คือเป็นสะพานไม้ที่มีโครงสร้างเป็นซุ้มโค้งต่อเนื่องกันถึง 5 โค้ง ซึ่งสร้างขึ้นด้วยเทคนิคที่ประณีตและละเอียดอ่อน ทำให้มีรูปลักษณ์ที่งดงามคลาสสิก เป็นอีกหนึ่งจุดที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนยามากุจิเลยค่ะ
โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมื่อดอกซากุระรอบๆ สะพานคินไตเคียวบานสะพรั่งพร้อมกัน จะยิ่งขับเน้นความงามแบบคลาสสิกและความสง่างามของสะพานให้โดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก
■ ที่อยู่: 1-231 Iwakuni, Iwakuni-shi, Yamaguchi Prefecture(山口県岩国市岩国1-231)
■ เวลาทำการ: 08:00~17:00 (ช่วงฤดูท่องเที่ยว ~18:00, ฤดูร้อน ~19:00) ※สามารถข้ามสะพานได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่จะปิดไฟหลัง 22:00 น.
■ ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป) 310 เยน・นักเรียนประถม 150 เยน
08. ปราสาทอิวาคุนิ (Iwakuni Castle)
ปราสาทอิวาคุนิ สร้างขึ้นโดย “คิกคาวะ ฮิโรอิเอะ (Kikkawa Hiroie)” ผู้ครองแคว้นอิวาคุนิคนแรก ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับสะพานคินไตเคียว และสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1608 แต่ด้วยนโยบาย “อิกโคคุอิจิโจเร (Ikkoku Ichijo Rei)” หรือ “หนึ่งแคว้น หนึ่งปราสาท” ของรัฐบาลโชกุนเอโดะในขณะนั้น ประกอบกับความสัมพันธ์ที่ไม่สู้ดีนักระหว่างตระกูลคิกคาวะกับตระกูลโมริ ทำให้ปราสาทอิวาคุนิถูกใช้งานเพียงแค่ 7 ปีก็ต้องถูกรื้อถอนไป จนกระทั่งได้รับการบูรณะและเปิดให้เข้าชมอีกครั้งในปี 1962 และในปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งใน “100 ปราสาทที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น” ค่ะ
■ ที่อยู่: 3 Chome Yokoyama, Iwakuni-shi, Yamaguchi Prefecture (山口縣岩國市橫山3丁目)
■ เวลาทำการ: 9:00~16:45
■ ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป) 270 เยน・นักเรียนประถม 120 เยน
■ OFFICIAL SITE
09. ถ้ำอะคิโยชิโด (Akiyoshido Cave)
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีทรัพยากรทางภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย และที่จังหวัดยามากุจิก็มีภูมิประเทศแบบถ้ำหินปูนที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่หลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ “ถ้ำอะคิโยชิโด” ที่มีอายุกว่า 300 ล้านปี และเป็นถ้ำหินปูนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่ยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่ ถ้ำนี้มีความยาวรวมประมาณ 10 กิโลเมตร (ส่วนที่เปิดให้เข้าชมได้เพียง1 กิโลเมตร) และความสูงของถ้ำสูงถึง 80 เมตร ภายในถ้ำจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยคงที่อยู่ที่ 17 องศาเซลเซียส ทำให้รู้สึกเย็นสบายตลอดทั้งปี เมื่อผสมผสานกับการจัดแสงไฟ ยิ่งทำให้เกิดบรรยากาศที่แตกต่างกันไป
■ ที่อยู่: 3506-2 Akiyoshi, Akiyoshi-cho, Mine-shi, Yamaguchi Prefecture (山口縣美禰市秋芳町秋吉3506-2)
■ เวลาทำการ: เดือนมีนาคม~พฤศจิกายน: 8:30~17:30 ปิดถ้ำ: 18:30; เดือนธันวาคม~กุมภาพันธ์: 8:30~16:30 ปิดถ้ำ: 17:30
■ ค่าเข้าชม: 16 ปีขึ้นไป 1,300 เยน・13 ปีถึง 15 ปี 1,050 เยน・6 ปีถึง 12 ปี 700 เยน
■ OFFICIAL SITE
10. แหลมคาวาชิริ (Kawashiri Cape)
สำหรับใครที่รักธรรมชาติและชอบชมวิวสวยๆ ขอแนะนำให้ไปเดินเล่นที่ “แหลมคาวาชิริ” ซึ่งเป็นจุดเหนือสุดของเมืองนางาโตะ ที่นี่ไม่เพียงแต่จะได้ชมวิวทะเลญี่ปุ่นอันกว้างใหญ่และหน้าผาหินอันงดงามเท่านั้น แต่ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การตั้งแคมป์ท่ามกลางธรรมชาติ เพื่อดื่มด่ำกับความสงบและผ่อนคลายของจังหวัดยามากุจิได้อย่างเต็มที่
■ ที่อยู่: Yuyamukatsukushimo, Nagato-shi, Yamaguchi Prefecture(山口県長門市油谷向津具下)
■ เวลาทำการ: 09:00~17:00
■ OFFICIAL SITE
11. หาดKIWA・RA
หาดคิวะระ (Kiwara Beach หรือ キワ・ラ・ビーチ ในภาษาญี่ปุ่น) ตั้งอยู่ในเมืองอูเบะ และได้รับการขนานนามว่าเป็น “ทะเลเกลืออูยูนีแห่งญี่ปุ่น” เลยทีเดียว ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปที่งดงามอลังการ และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สายถ่ายรูปห้ามพลาดเด็ดขาด! ในวันที่ไม่มีลม และแอ่งน้ำที่เกิดจากน้ำลง (Tide Pool) จะสะท้อนภาพท้องฟ้าและพระอาทิตย์ตกดินบนผิวน้ำที่เรียบใสดุจกระจกเงา ทำให้เกิดเป็นภาพที่สวยงามราวกับความฝัน ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในสันทรายที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย โดยมีความกว้างถึง 2.0 กิโลเมตร และลึก 700 เมตร สามารถเดินเล่นสำรวจได้สบายๆ การเดินทางก็สะดวกมากๆ เพราะที่นี่อยู่ห่างจากสถานีรถไฟคิวะ (Kiwa Station) เพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น ในช่วงฤดูร้อน ที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับการว่ายน้ำและตั้งแคมป์อีกด้วย ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาเยือนเลยทีเดียว
■ ที่อยู่: 54-3 Kananomae, Higashikiwa, Ube-shi, Yamaguchi Prefecture (山口県宇部市東岐波 字鹿の前54番地の3)
■ OFFICIAL SITE
12. เกาะโอมิจิมะ (Omi Island)
เกาะโอมิจิมะ (Omi Island) เป็นจุดท่องเที่ยวที่เป็นตัวแทนของอุทยานแห่งชาติคิตะนางาโตะไคกัน (Kita-Nagato Kaigan Quasi-National Park) และได้รับฉายาว่าเป็น “เทือกเขาแอลป์กลางทะเล” เลย และเกาะแห่งนี้ยังถูกล้อมรอบด้วยคลื่นลมแรงของทะเลญี่ปุ่นทั้งสามด้าน ทั้งทิศตะวันออก ทิศตะวันตก และทิศเหนือ คลื่นทะเลได้กัดเซาะเกาะแห่งนี้จนเกิดเป็นทัศนียภาพอันงดงามตระการตา ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาสูงชัน ถ้ำ เสาหินรูปร่างแปลกตา และโขดหินน้อยใหญ่ที่ทอดยาวต่อเนื่องกันเป็นระยะทางถึง 16 กิโลเมตร ต่างเป็นภาพที่น่าทึ่งและแสดงให้เห็นถึงพลังของธรรมชาติอย่างแท้จริง
การไปชมความงามของเกาะอาโอชิมะนั้นมีหลากหลายแบบให้คุณเลือก คุณสามารถเลือกนั่งเรือท่องเที่ยวเพื่อชมทิวทัศน์ของเกาะจากทางทะเล หรือจะเดินเล่นไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติของเกาะอาโอชิมะบนบกก็ได้ หรือถ้าใครชอบกิจกรรมท้าทาย ก็สามารถดำน้ำสำรวจโลกใต้ทะเลรอบๆ เกาะได้อีกด้วย
■ ที่อยู่: Senzaki, Nagato-shi, Yamaguchi Prefecture (山口県長門市仙崎)
■ OFFICIAL SITE
13. ทางเดินชมวิวเหนือน้ำ
ทางเดินชมวิวเหนือน้ำ (Promenade หรือ プロムナード ในภาษาญี่ปุ่น) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของ “หาดฮานะกุริ (Hanaguri Beach หรือ はなぐり海水浴場)” มีความยาวรวมประมาณ 300 เมตร ที่นี่คุณสามารถเดินเล่นรับลมทะเลเย็นๆ พร้อมกับชมวิวทะเลได้อย่างเพลิดเพลิน เหมือนได้เดินอยู่บนผิวน้ำเลยค่ะ
นอกจากนี้ ยังมีท่าเรือ 3 แห่ง ที่สามารถไปชมอนุสาวรีย์ปลาฮิราเมะ (ปลาตาเดียว) และตกปลาได้อีกด้วย และอย่าลืมแวะไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่เกาะคาซาโดะ (Kasadojima Island) นะ ว่ากันว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในแถบญี่ปุ่นตะวันตกเลยทีเดียว
■ ที่อยู่: Hanaguri, Kasadojima, Kudamatsu-shi, Yamaguchi Prefecture (山口県下松市笠戸島はなぐり)
■ OFFICIAL SITE
14. วิวยำค่ำคืน โรงงานอุตสาหกรรมชูนัน (Shunan Factory Night View)
อุตสาหกรรมปิโตรเคมีชูนัน (Shunan Combinart หรือ 周南コンビナート) ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลเซโตะใน (Seto Inland Sea) เป็นหนึ่งในกลุ่มโรงงานเคมีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และในยามค่ำคืน พื้นที่อันกว้างใหญ่ของนิคมแห่งนี้จะสว่างไสวไปด้วยแสงไฟนับไม่ถ้วน ทำให้เกิดเป็นวิวยำค่ำคืนของโรงงานอุตสาหกรรมที่งดงามอลังการราวกับแกแล็คซี่ และดูเหมือนภาพในฝันเลยทีเดียว เสน่ห์ของที่นี่ก็คือการได้สัมผัสกับพลังของเมืองในระยะใกล้ ไม่ว่าจะเป็นการชมวิวจากสวนสาธารณะฮารุมิ รินซุย (Harumi Rinsui Park) ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นมรดกทางทัศนียภาพยามค่ำคืนของญี่ปุ่น หรือจากย่านมิตสึอิโจ (Mitsuicho) ที่สามารถมองเห็นปล่องไฟขนาดใหญ่ได้อย่างใกล้ชิด หรือแม้กระทั่งชมผ่านหน้าต่างรถไฟชินคันเซ็นก็ตามค่ะ
ที่นี่ยังมีจุดชมวิวหลายแห่งที่สามารถเดินจากสถานีรถไฟ และไปถึงได้อย่างสะดวกสบาย ดังนั้นแม้แต่คนที่ไม่เคยมาก็สามารถเพลิดเพลินกับการชมวิวได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าใครอยากจะดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบเต็มที่และไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง ขอแนะนำให้ลองนั่งเรือประมงท่องเที่ยว หรือใช้บริการรถแท็กซี่นำเที่ยวที่มีคนขับผู้ชำนาญนำทาง! หรือจะลองขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเซโตะในไค (Setonaikai National Park) แล้วมองลงมาจากภูเขาไทคะซัง (Mt. Taikazan) ไปทางสถานีโทคุยามะ (Tokuyama Station) ก็ได้ แล้วคุณจะได้เห็นภาพมุมสูงของนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ที่สวยงามและยิ่งใหญ่ไปอีกแบบ
ทางเว็บไซต์ทางการก็ได้รวบรวมแผนที่จุดชมวิวที่แนะนำไว้ให้ด้วยนะ คุณสามารถเลือกจุดที่เดินทางไปได้สะดวกที่สุดสำหรับตัวเองได้เลย
■ ที่อยู่: Shunan-shi, Yamaguchi Prefecture (山口県周南市)
■ OFFICIAL SITE
15. ศาลเจ้าโฮฟุเท็นมังกู (Hofu Tenmangu Shrine)
ทั่วประเทศญี่ปุ่นมีศาลเจ้าประมาณ 12,000 แห่งที่อุทิศให้กับท่านสึกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ (Sugawara no Michizane) และว่ากันว่าศาลเจ้าโฮฟุเท็นมังกูแห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นแห่งแรกสุดเลย ศาลเจ้าแห่งนี้ให้พรในเรื่องความปลอดภัยในการคลอดบุตร ความเจริญรุ่งเรืองทางธุรกิจ และความเป็นสิริมงคลต่างๆ แต่ก็มีผู้คนจำนวนมากที่เดินทางมาเพื่อขอพรให้สอบผ่านและประสบความสำเร็จทางการศึกษา แผ่นป้ายเอมะ (Ema) ที่แขวนอยู่เต็มศาลเจ้าก็เต็มไปด้วยคำอธิษฐานของผู้คน ชุดเครื่องราง “โกคาคุ โอมาโมริ (Gokaku Omamori)” ที่ประกอบด้วยสินค้า 5 อย่าง เช่น จิมะกิ (ขนมข้าวเหนียวห่อใบไผ่) และดินสอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ “การสอบผ่าน” ก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน
ในช่วงฤดูของดอกบ๊วย ซึ่งเป็นดอกไม้ที่ท่านมิจิซาเนะโปรดปราน ที่นี่จะมีการจัดเทศกาลดอกบ๊วยเป็นเวลาสองสัปดาห์ ในช่วงเวลานี้จะมีการออกตราประทับโกชูอิน (Goshuin) ลายพิเศษธีมดอกบ๊วยและมีการแจก “อุเมะเดะอุเมะ (Shusse Ume)” ซึ่งเป็นบ๊วยคุณภาพดีที่ใช้ในการผลิตเหล้าจากจังหวัดยามากุจิ และบ๊วยที่เก็บจากภายในบริเวณศาลเจ้าโฮฟุเท็นมังกู นำมาผ่านพิธีชำระล้างแล้วถวายแด่เทพเจ้า หลังจากนั้นจึงนำมาแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
■ ที่อยู่: 14-1 Matsuzakicho, Hofu-shi, Yamaguchi Prefecture (山口県防府市松崎町14-1)
■ เวลาทำการ: เวลาเปิด06:00~20:00; เวลาจำหน่ายเครื่องราง 08:00~16:30
■ OFFICIAL SITE
แนะนำ 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดยามากุจิที่คุณต้องไปเช็คอิน!
หลังจากที่ได้รู้จักทั้ง 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดยามากุจิที่เรานำมาฝากกันไปแล้ว คุณคงจะรู้จักจังหวัดนี้มากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ? จังหวัดยามากุจิมีทั้งภูเขา ทะเล และภูมิประเทศที่หลากหลายสวยงาม ถ้าใครเป็นสายเที่ยวธรรมชาติและชอบสัมผัสกับระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ ลองวางแผนการเดินทางตามบทความนี้ดูได้เลยนะ รับรองว่าจะได้ประสบการณ์ที่น่าประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน!